ในโลกโซเชียลมีเดียที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การเกาะติดเทรนด์ล่าสุดเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักการตลาดที่ต้องการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมายของตน เทรนด์หนึ่งที่กลายเป็นกระแสแรงในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาคือการใช้การสื่อสารการตลาดแบบมีม มีม เป็นรูปภาพหรือวิดีโอที่ตลกขบขัน เข้าถึงได้ และมักจะเป็นไวรัลพร้อมกับคำบรรยายที่เฉียบคม ได้ปฏิวัติวิธีที่แบรนด์เชื่อมต่อกับผู้บริโภคในโลกดิจิทัล ในบทความนี้ เราจะสำรวจผลกระทบของการตลาดมีมที่มีต่อแนวโน้มของโซเชียลมีเดีย และเจาะลึกว่าทำไมมันจึงกลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ

มีมเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมอินเทอร์เน็ตที่แพร่หลาย แต่จริง ๆ แล้วพวกมันคืออะไร และมาจากไหน? สิ่งที่น่าสนใจคือมีมไม่ได้มาจากอินเทอร์เน็ต นักภาษาศาสตร์บางคนแย้งว่ามนุษย์ใช้มีมเป็นวิธีการสื่อสารมานานหลายศตวรรษ มีมทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการสนทนาเกี่ยวกับวัฒนธรรมและให้โอกาสในการมีส่วนร่วมในเทรนด์ทางอินเทอร์เน็ต แม้กระทั่งสำหรับผู้ที่ไม่ได้ดื่มด่ำกับวัฒนธรรมออนไลน์อย่างลึกซึ้งก็ตาม 

มีมคืออะไร?

คำว่า "มีม" มีประวัติย้อนหลังไปถึงทศวรรษ 1940 เมื่อปรากฏในปริศนาอักษรไขว้ของ New York Times ประมาณ 60 ครั้ง อย่างไรก็ตาม แนวคิดนี้ได้รับความนิยมโดยนักชีววิทยาวิวัฒนาการชาวอังกฤษ Richard Dawkins ในหนังสือของเขาในปี 1976 เรื่อง "The Selfish Gene" ในความคิดดั้งเดิมของดอว์กินส์ "มีม (meme)" คล้ายกับ "ฟอนิม (phoneme)" (หน่วยเสียงที่เล็กที่สุดในคำพูด) หรือ "หน่วยคำ (morpheme)" (หน่วยย่อยที่มีความหมายน้อยที่สุดของคำ) หากต้องการอธิบายง่าย ๆ ให้คิดว่ามีมเป็นข้อมูลที่จำลองตัวเองได้ เช่น เรื่องตลกวงในในหมู่เพื่อนฝูง หรือโฆษณาที่ติดหู เมื่อเราแบ่งปันหรือทำซ้ำข้อมูลดังกล่าว เรากำลังทำให้มีมสามารถทำซ้ำตัวเองได้ คำว่า "meme" ปรากฏครั้งแรกใน New York Times Crossword ในปี 1953 โดยมีคำใบ้ว่า "Same: French" การปรากฏตัวครั้งล่าสุดคือเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2021 โดยมีคำใบ้ว่า "Something that gets passed around a lot."

คำว่า "มีม" นั้นพัฒนาไปตามกาลเวลา เช่นเดียวกับมีมที่พวกเขาอธิบาย ในยุคของอินเทอร์เน็ต มีมและความหมายถูกสร้างขึ้นร่วมกันโดยผู้ใช้หลายคนภายในบริบททางสังคม ทำหน้าที่เป็นรูปแบบหนึ่งของการสื่อสารและการสร้างความรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากผู้คนสร้างสรรค์และแบ่งปันมีมกันอย่างแข็งขัน Saint Hoax ผู้สร้างมีมยอดนิยม ให้คำจำกัดความของมีมว่าเป็นสื่อที่ถูกนำมาใช้เพื่อสื่อถึงการแสดงออกทางวัฒนธรรม สังคม หรือการเมือง โดยมักมีอารมณ์ขัน มีมมีพลังในการดึงดูดจิตวิญญาณแห่งยุคสมัย และยังสามารถเพิ่มความนิยมให้กับรายการทีวีหรือเพลงได้ด้วยการกลายเป็นพื้นฐานสำหรับกระแสไวรัล

มีมทางอินเทอร์เน็ตที่ได้รับความนิยมและเป็นมีมที่หลายคนจดจำได้นั่นก็คือคือ GIF เด็กน้อยที่กำลังเต้นรำจากใน 1996 (Oogachaka Baby, 1996 Meme) นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มีมก็ได้รับความนิยมอย่างล้นหลามและเป็นวิธีหลักในการสื่อสารออนไลน์ของผู้คน

การเพิ่มขึ้นของวัฒนธรรม Meme

มีมได้กลายเป็นส่วนสำคัญของประสบการณ์ออนไลน์ ก้าวข้ามอายุ วัฒนธรรม และอุปสรรคด้านภาษา สิ่งที่เริ่มต้นจากอารมณ์ขันทางอินเทอร์เน็ตที่เบาสมองได้พัฒนาเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรม Memes เป็นแพลตฟอร์มสำหรับผู้คนในการแสดงออก แบ่งปันประสบการณ์ทั่วไป และมีส่วนร่วมในการล้อเลียนอย่างมีไหวพริบ ความสามารถในการแบ่งปันและความสัมพันธ์โดยธรรมชาติของมันทำให้มีมเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับสื่อสังคมออนไลน์ที่ซึ่งเนื้อหาแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว

วัฒนธรรมพ็อปที่โดดเด่นมักจุดประกายให้เกิดการสร้างมีม เปรียบเสมือนการ์ตูนแนวบรรณาธิการสมัยใหม่ แชร์ได้ง่าย และเข้าใจได้ภายในไม่กี่วินาที มีมส่งเสริมความรู้สึกของชุมชนออนไลน์ในขณะที่บางครั้งก็ยังคงเป็นเอกสิทธิ์สำหรับผู้ที่เข้าใจต้นกำเนิดของมีมเหล่านั้น

เมื่อมองไปในอนาคต บางคนคาดการณ์ว่ามส์อาจกลายเป็น non-fungible tokens (NFT) และจะยังคงมีบทบาทสำคัญในการสนทนากระแสหลักเกี่ยวกับช่วงเวลาทางวัฒนธรรมและเรื่องราวข่าว มีมได้เปลี่ยนวิธีการสื่อสารของเรา ทำให้การโต้ตอบทั่วโลกง่ายขึ้นและสนุกสนานยิ่งขึ้น

พลังของ Memes ในการตลาด

การเชื่อมต่อทันที: Memes เข้าถึงจิตสำนึกส่วนรวมและการอ้างอิงทางวัฒนธรรมที่สอดคล้องกับบุคคลที่หลากหลาย ด้วยการรวมมีมเข้ากับการสื่อสารทางการตลาด แบรนด์สามารถสร้างการเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายได้ทันที ส่งเสริมความคุ้นเคยและสร้างสายสัมพันธ์

ไวรัลลิตี้และการเข้าถึง: หนึ่งในลักษณะเฉพาะของมีมคือศักยภาพในการไวรัล เมื่อมีมโดนใจผู้ใช้ ผู้ใช้จะแชร์กับเครือข่ายของตนอย่างรวดเร็ว ซึ่งนำไปสู่การเข้าถึงแบบทวีคูณและการเปิดเผยสำหรับแบรนด์ การแบ่งปันแบบออร์แกนิกนี้มีศักยภาพในการขยายข้อความของแบรนด์ไปไกลกว่าวิธีการโฆษณาแบบดั้งเดิม

การมีส่วนร่วมและการโต้ตอบ: Memes เชิญการมีส่วนร่วมจากผู้ใช้ การกระตุ้นให้ผู้บริโภคมีส่วนร่วมกับมีมผ่านการกดถูกใจ แสดงความคิดเห็น และแชร์ ทำให้แบรนด์ต่าง ๆ สามารถสร้างความรู้สึกของชุมชนและการมีส่วนร่วมได้ มีมสร้างการสนทนา จุดประกายการโต้วาที และเพิ่มประสบการณ์โซเชียลมีเดียโดยรวม ส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ในท้ายที่สุด

Humanising the Brand: Memes ใส่อารมณ์ขันและบุคลิกภาพเข้าไปในภาพลักษณ์ของแบรนด์ การยอมรับมีมทำให้บริษัทต่าง ๆ สามารถแสดงด้านที่เบากว่าของตนได้ ทำให้มีความสัมพันธ์และเข้าถึงได้มากขึ้น มนุษยสัมพันธ์นี้ช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ทางอารมณ์กับผู้บริโภค เสริมสร้างความภักดีต่อตราสินค้า

กลยุทธ์ที่คุ้มค่า: การตลาด Meme มักต้องใช้เงินลงทุนเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับแคมเปญโฆษณาแบบดั้งเดิม ด้วยความคิดสร้างสรรค์และจังหวะของวัฒนธรรมพ็อป แบรนด์ต่าง ๆ สามารถใช้ประโยชน์จากมีมที่มีอยู่หรือสร้างขึ้นเอง ใช้ประโยชน์จากเทรนด์โดยไม่ทำให้งบบานปลาย

Riding the Wave: Unleashing the Power of Meme Marketing in Social Media Trends

แม้ว่าการตลาดแบบมีมจะมีศักยภาพมหาศาล แต่ก็ไม่ได้ปราศจากความท้าทาย แบรนด์ต่าง ๆ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องระมัดระวังและคำนึงถึงบริบท น้ำเสียง และความอ่อนไหวทางวัฒนธรรมที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้มีม การตัดสินใจที่ผิดพลาดอาจนำไปสู่การฟันเฟืองของสาธารณชนและทำลายชื่อเสียงของแบรนด์ ยิ่งไปกว่านั้น มีมมีอายุสั้น และสิ่งที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันอาจจางหายไปในวันพรุ่งนี้ แบรนด์ต้องตามทันและปรับตัวให้เข้ากับเทรนด์ใหม่ ๆ อย่างรวดเร็ว เพื่อให้คงความเกี่ยวข้องและหลีกเลี่ยงการถูกมองว่าล้าสมัย

มีมสามารถสร้างจากอะไรก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพของคนดังหรืออะไรก็ตามแบบสุ่ม สิ่งสำคัญคือการถ่ายทอดอารมณ์หรือความหมายที่ผู้คนสามารถเข้าใจได้ คุณสมบัติหลักของมีมคือความสามารถในการคัดลอก ตัวอย่างเช่น มีม "ผู้หญิงตะโกนใส่แมว" เป็นการรวมรูปภาพสองรูปที่ไม่เกี่ยวข้องกันเพื่อแสดงความโกรธและความรำคาญ ผู้คนสามารถเพิ่มข้อความหรือแนวคิดของตนเองลงไปได้ ทำให้โดนใจกลุ่มต่าง ๆ

ในภูมิทัศน์ที่ไม่หยุดนิ่งของกระแสโซเชียลมีเดีย การสื่อสารการตลาดด้วยมีมได้พิสูจน์แล้วว่าเป็นพลังที่น่าเกรงขาม มีมดึงดูดความสนใจ สร้างเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง และกระตุ้นการมีส่วนร่วม ด้วยการเปิดรับวัฒนธรรมมีมและผสมผสานเข้ากับกลยุทธ์ทางการตลาด แบรนด์ต่าง ๆ สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่แท้จริงกับผู้ชม ส่งเสริมความภักดีต่อแบรนด์ และขยายการเข้าถึงของพวกเขา อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องสำรวจตลาดมีมด้วยความระมัดระวัง เพื่อให้มั่นใจว่ามีความละเอียดอ่อน ความเกี่ยวข้อง และรู้ทันกระแสของเทรนด์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ในยุคดิจิทัลนี้ ที่ซึ่งอารมณ์ขันและความเชื่อมโยงได้ครองอำนาจสูงสุด การตลาดแบบมีมมอบโอกาสพิเศษในการดึงดูดใจและโดนใจผู้บริโภคในภาษาที่พวกเขาเข้าใจได้ดีที่สุด

Reference

Alexis Benveniste, (February 14, 2022). The Meaning and History of Memes

Jon Martindale, (July 13, 2022). What is a meme? Here’s everything you need to know

Olivia Munson, (July 14, 2023). What is a meme? They can be funny and cute or full of misinformation