ในโลกของการทำงานสมัยใหม่ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา มี 2 รูปแบบการทำงานที่ตีคู่กันมาและถูกตั้งคำถามมาเสมอว่าแบบไหนดีกว่า แบบไหนตอบโจทย์คนทำงานมากกว่า ซึ่ง 2 สิ่งนั้นก็คือ Work-Life Balance และ Work-Life Integration นั่นเอง ซึ่งก็แน่นอนว่าในขอบเขตของประสบการณ์ของพนักงานและวัฒนธรรมบริษัท ไม่มีคำใดที่แพร่หลายมากไปกว่าคำว่า Work-Life Balance อย่างแน่นอน ซึ่ง Work-Life Balance เป็นสิ่งที่ผู้สมัครงานทุกคนต้องการและทุกธุรกิจให้คำมั่นสัญญา แต่ในช่วงหลายปีที่ Work-Life Balance กลายเป็นจุดขายที่แพร่หลาย สถานที่ทำงานก็เปลี่ยนไปอย่างมาก และแนวคิดใหม่ก็เริ่มเข้ามาแทนที่ Work-Life Balance ซึ่งนั่นก็คือ Work-Life Integration นั่นเอง
การระบาดใหญ่นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในการทำงานทางไกล หรือ Remote Working และการทำงานแบบผสมผสาน หรือ Hybrid Working ซึ่งก็เป็นที่ประจวบเหมาะได้กระตุ้นให้เกิดแนวทางใหม่ ๆ ในการทำงานอย่างล้นหลาม บริษัทมากมายต่างก็ปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน บางบริษัทเปลี่ยนมาทำงานเพียงสัปดาห์ละ 3-4 วัน บางบริษัทปรับมาทำงาน On-Site แค่เดือนละ 2-3 วัน ทำให้ปัจจุบันหลาย ๆ คนเริ่มมีการทำงานในทุก ๆ ที่ มีการนำงานเข้ามาสู่ชีวิตประจำวันมากขึ้น ทำให้ทุก ๆ ที่กลายเป็นที่ทำงาน จนเริ่มบทบังทัศนีภาพของการทำงานเดิมอย่างการทำงานแบบ Work-Life Balance กันไปแล้ว
Work-Life Integration คืออะไร?
Work-Life Integration หมายถึง แนวคิดของการ "ผสมผสาน" ความรับผิดชอบในการทำงานและความรับผิดชอบส่วนบุคคล ความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานช่วยให้พนักงานสามารถทำงานตามเวลาที่กำหนด ซึ่งโดยทั่วไปอาจจะเป็นช่วงเวลาอย่าง 9 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น จากนั้นเลิกงานตามชั่วโมงส่วนตัวที่เหลืออยู่ แต่ในโมเดลใหม่นี้จะบูรณาการระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงานมากขึ้น และจะส่งเสริมวิธีการที่ลื่นไหลและยืดหยุ่นมากขึ้นด้วย แนวทางนี้ไม่ได้เกี่ยวกับการให้พนักงานทำงานน้อยลง หรือมีชั่วโมงพักมากขึ้น แต่ไปเน้นที่ผลลัพธ์ของการทำงานเสียมากกว่า จะโฟกัสที่ผลลัพธ์และคุณภาพของงาน ไม่ใช่เกี่ยวกับเวลาและระยะเวลาที่ทำงาน
แนวทางนี้เชื่อว่างานและชีวิตไม่ใช่สิ่งที่แยกจากกัน แต่เป็นลักษณะที่เชื่อมโยงกันซึ่งสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างกลมกลืน แทนที่จะมองว่างานและเวลาส่วนตัวเป็นสิ่งที่แยกจากกัน เราสามารถหาพื้นที่ในการประนีประนอมได้ ตัวอย่างเช่นเราจะทำงานบ้านให้เสร็จในขณะที่กำลังประชุมทางโทรศัพท์ หรือแม้แต่การพาเด็ก ๆ หรือลูก ๆ ไปที่สำนักงานด้วยเมื่อโรงเรียนปิดก็เป็น 1 ในการรวมชีวิวส่วนตัวเข้ากับงานอย่างยืดหยุ่นด้วย ข้อได้เปรียบที่ใหญ่ที่สุดของการรวมชีวิตการทำงานคือความยืดหยุ่น เมื่อพนักงานสามารถประสานตารางเวลาและความรับผิดชอบของพวกเขาได้อย่างเหมาะสม พวกเขามีแนวโน้มที่จะประสบกับความพึงพอใจในทุกด้านของชีวิต แต่ในทางกลับกันก็มีข้อเสียอยู่บ้าง จากการศึกษาได้แสดงให้เห็นว่าการรวมงานและชีวิตส่วนตัวเข้าด้วยกันอาจส่งผลเสียเมื่อชีวิตไม่สมดุล ไม่สามารถทำสองสิ่งพร้อม ๆ กันอย่างมีประสิทธิภาพก็จะทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง ประสิทธิภาพการดำเนินชีวิตส่วนตัวก็อาจจะลดลงด้วยจนทำให้ไม่มีความสุขในทุกมุม
Work-Life Balance คืออะไร?
Work-Life Balance หมายถึง ความสามารถในการรักษาสมดุลที่ละเอียดอ่อนระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว การสร้างความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงานจะเน้นความสำคัญเท่าเทียมกัน หมายถึงการกำหนด "เวลาทำงาน" ที่เฉพาะเจาะจงและรักษาขอบเขตที่ชัดเจนระหว่างเวลาทำงานกับเวลาส่วนตัว อย่างไรก็ตาม ความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงานตระหนักดีว่าลำดับความสำคัญอาจผันผวนในแต่ละวัน บางครั้งงานต้องการสมาธิมากขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญ ในขณะที่เวลาอื่น ๆ ชีวิตส่วนตัวจะเป็นจุดศูนย์กลาง
แต่อย่างไรก็ตาม ในโลกของการทำงานระยะไกลในปัจจุบัน ในทางปฏิบัติอาจเป็นเรื่องยากที่จะรักษาขอบเขตชีวิตการทำงาน ตัวอย่างเช่น หลาย ๆ คนอาจถูกบังคับให้เช็คอีเมลหลังเวลางาน หรือแก้งานด่วนที่เป็นช่วงเวลานอกเหนือจากการทำงานที่กำหนดไว้ ซึ่งนี่ก็เป็นจุดหนึ่งที่หลาย ๆ บริษัทต้องตกลงกันกับพนักงานตั้งแต่เรื่องสัญญาการทำงานเลยว่าจะให้พนักงานมี Work-Life Balance ขนาดไหน บริษัทสามารถกำหนดเวลาการทำงานได้อย่างชัดเจนหรือไม่
ความแตกต่างระหว่าง Work-Life Balance และ Work-Life Integration คืออะไร?
ต้องบอกว่า ระหว่าง Work-Life Balance และ Work-Life Integration นั้นนำเสนอแนวทางที่ถูกต้องในการบรรลุความสอดคล้องระหว่างความรับผิดชอบส่วนบุคคลและความรับผิดชอบในอาชีพ ทางเลือกระหว่างทั้งสองขึ้นอยู่กับความชอบ สไตล์การทำงาน และสถานการณ์ของแต่ละคน เมื่อมองหาพนักงานใหม่ ธุรกิจต่าง ๆ ก็ยังคงจะโฆษณาว่าบริษัทของตัวเองนั้นมี Work-Life Balance ที่ดี ซึ่งมักจะตอบโจทย์ผู้คนด้วย เนื่องจากพนักงาน 1 ใน 3 จากผลการศึกษาระบุว่า Work-Life Balance ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในบรรดาผลประโยชน์ทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตามจากบทความข้างต้นที่ได้เขียนมา Work-Life Balance ก็ไม่ได้ตอบโจทย์การทำงานในโลกของความเป็นจริงหลังการระบาดใหญ่นับตั้งแต่ปี 2019 แน่นอนว่ามีคนงานบางคนที่ยังคงเข้างานตอน 9 โมงเช้า และเก็บคอมพิวเตอร์กลับบ้านตอน 5 โมงเย็น แต่บ่อยครั้งที่ผู้คนจัดการกับเรื่องส่วนตัวตลอดทั้งวัน เช็คอีเมลขณะพักผ่อนบนเตียงในตอนกลางคืน และโดยทั่วไปมักผสมผสานชีวิตส่วนตัวและอาชีพเข้าด้วยกัน
สำหรับผู้ที่ประสบความสำเร็จในสภาพแวดล้อมที่ยืดหยุ่นและลื่นไหล Work-Life Integration อาจเป็นคะแนนที่สมบูรณ์แบบ การยอมรับการเชื่อมโยงระหว่างงานและชีวิตส่วนตัวสามารถนำไปสู่ความพึงพอใจและผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ในทางกลับกัน ผู้ที่มองหาขอบเขตที่ชัดเจนขึ้นและกำหนดชั่วโมงการทำงานที่ชัดเจนอาจถูกกใจกับ Work-Life Balance มากกว่า การสร้างสมดุลนี้สามารถป้องกันความเหนื่อยหน่ายและส่งเสริมความรู้สึกในการถูกควบคุมจากงานด้วย
ดร. รีเบคก้า แมนนิส (Dr. Rebecca Mannis) ผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนรู้ของ Ivy Prep Learning Center ให้คำแนะนำอย่างเหมาะสมว่า “ในขณะที่ความต้องการงานและบริบทของงานเปลี่ยนไป เราจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนแนวทางของเรา อย่าคิดว่าทุกสิ่งจะ 'สมดุล' เพราะนั่นหมายถึงความสมบูรณ์แบบและความสม่ำเสมอที่ไม่สมจริง ดังนั้นจึงเป็นการจัดเตรียมความหงุดหงิดและความรู้สึกล้มเหลว ให้คิดว่าสมองเป็นสถานที่ที่มีกิจกรรมมากมายที่ทำให้เราปรับตัวได้ นั่นคือความเป็นจริงของวิธีการทำงานของสมองของเรา สิ่งที่เราต้องทำในบทบาทใหม่ และสิ่งที่เราต้องคำนึงถึงในภูมิทัศน์ชีวิตการทำงานใหม่นี้”
เป้าหมายของ Work-Life Integration ไม่ใช่การทำให้เส้นแบ่งระหว่างงานกับชีวิตสับสน แต่คือการช่วยให้พนักงานมีอิสระมากขึ้นในการจัดตารางเวลา ซึ่งต้องบอกว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รูปแบบธุรกิจจะเริ่มสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว หลาย ๆ ที่เริ่มให้ทำงานแบบยืดหยุ่นมากขึ้นแทนที่จะจัดตารางเวลาแบบบังคับเหมือนเดิม บริษัทและนายจ้างมีบทบาทสำคัญในการเลือกวิธีการทำงานเหล่านี้ การทำความเข้าใจความต้องการของสมาชิกในทีมแต่ละคนและการให้การสนับสนุนที่จะปรับให้เหมาะสมสามารถปลดล็อกศักยภาพของการผสานการทำงานกับชีวิตหรือความสมดุลในชีวิตการทำงานได้อย่างเต็มที่ ดังนั้น ม่านของการทำงานยุคใหม่ได้เปิดขึ้นแล้ว จงเลือกสิ่งที่โดนใจคุณและทีมของคุณ โอบกอดความสามัคคีและปล่อยให้ความมหัศจรรย์ของงานและชีวิตสอดประสานกันอย่างอิสระและลงตัวได้เลย
Reference
Danielle Fallon-O'Leary, (July 15, 2021). Work-Life Integration Is the New Work-Life Balance. Is Your Team Ready?
Sam Holzman, (April 1, 2022). Work-Life Integration Gaining Traction in the Post-Pandemic Workplace
0 Comment