ความทันสมัยของเทคโนโลยีที่พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในหลาย ๆ ด้าน นวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ช่วยให้เกิดความสะดวกรวดเร็วและเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจหรือทำให้มีโอกาสสู้กับคู่แข่งได้ มักถูกนำมาใช้เสมอเพื่อสร้างความได้เปรียบด้านการตลาด ซึ่งเคยเขียนไว้ในบทความ กราฟฟิค 3D กับการออกแบบเว็บไซต์ แอพ และสื่อของแบรนด์คุณให้โดดเด่นกว่าใคร การออกแบบ 3D ก็เป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่เข้ามามีบทบาทต่อวิถีชีวิตผู้คนและสังคมในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจอุตสาหกรรมโฆษณา อุตสาหกรรมบันเทิง วงการภาพยนตร์ งานโฆษณา หรืออื่น ๆ เช่น สื่อออนไลน์
ก่อนอื่นเราพาไปทำควมรู้จัก 3D กันดีกว่า
3D หรือ 3 Dimension นั้นก็คือลักษณะของภาพที่แสดงมุมมองทั้ง 3 มิติ ได้แก่ ความสูง ความกว้าง และความลึก ภาพที่ได้จึงดูมีมิติ ไม่แบน ความแตกต่างระหว่าง 3D และ 2D จะเห็นได้อย่างชัดเจน เนื่องจากภาพ 3D จะมีลักษณะเหมือนจริงมากกว่าภาพ 2D ส่วนใหญ่จะเห็นรูปแบบ 3D จากหนังแอนนิเมชั่น แต่ในปัจจุบันมีการนำรูปแบบ 3D มาประยุกต์ใช้กับงานออกแบบเกือบจะทุกประเภท โดยกระบวนการสำหรับงาน 3D หลัก ๆ นั้นประกอบด้วย Modeling, Texturing และ Lighting ซึ่งจะมีเพิ่มมาอีกขั้นตอนหนึ่ง นั่นก็คือ Animation สำหรับเป็นงาน 3D ที่มีการเคลื่อนไหว
แอนิเมชันกับชีวิตประจำวัน
3D ที่ได้รับความนิยมและถูกนำมาใช้เช่น นำภาพ 3D ไปประยุกต์เข้ากับการเขียนแบบ และออกแบบบ้าน ตกแต่งภายใน ออกแบบร้านอาหาร ซึ่งทำให้ให้ออกแบบมีลักษณะพิเศษของชิ้นงาน เพราะสามารถออกแบบให้มีบรรยากาศล้อมรอบที่เสมือนจริง แต่ปัจจุบันภาพเคลื่อนไหวหรือ 3D Animation มีบทบาทสำคัญไม่แตกต่างไปจากภาพ 3D เลยหรืออาจจะได้รับความนิยมมากยิ่งกว่า เห็นได้จากการรับทำ 3D Animation ให้กับธุรกิจหลายๆประเภท ที่ปรับเปลี่ยนมาเป็นการใช้สื่อโฆษณาประเภทภาพเคลื่อนไหวมากขึ้น อย่างโฆษณาของแบรนด์ต่าง ๆ ในโลกออนไลน์ หรือจะเป็นพรีเซนเทชันงานแต่งงาน หรือจะเป็นสื่อการสอนที่ออกแบบด้วย 3D Animation ทำให้การเรียนรู้โดยที่ไม่มีครูผู้สอนมีความน่าสนใจ
เทคโนโลยีโลกเสมือนก้าวสู่โลกความเป็นจริง
ยิ่งช่วงนี้ Interface Technology ดูจะมาแรงและน่าจับตามองมากๆ ประกอบกับแรงผลักดันในเชิงการตลาดในปัจจุบัน ทำให้แบรนด์ต่างๆ และ Interface Technology ได้ถูกนำมาผสานร่วมกับเทคโนโลยี Artificial Intelligence (AI) เพื่อสร้างคอนเทนต์เสมือนที่มีความน่าตื่นเต้นและสมจริงมากยิ่งขึ้นด้วยอย่างเช่น
Augmented reality (AR)
เป็นเทคโนโลยีใหม่ ที่ผสานเอาโลกแห่งความเป็นจริง และเข้ากับโลกเสมือนโดยใช้อุปกรณ์ Webcam สมาร์ทโฟน รวมกับการใช้ซอร์ฟแวร์ต่าง ๆ ทำให้สามารถมองเห็นภาพที่มีลักษณะเป็นวัตถุเช่น สัตว์, สิ่งของ เป็นต้น แสดงผลในหน้าจอกลายเป็นวัตถุ 3D ลอยอยู่เหนือพื้นผิวจริง และกำลังพลิกโฉมหน้าให้สื่อโฆษณาบนอินเทอร์เน็ต ก้าวไปสู่ความตื่นเต้นเร้าใจแบบใหม่ของการที่มีภาพสินค้าลอยออกมานอกจออีกด้วย
Virtual reality (VR)
หรือความเป็นจริงเสมือเป็นเทคโนโลยีที่คอมพิวเตอร์จำลองสภาพแวดล้อมเสมือนขึ้นมาโดยส่วนมากจะเกี่ยวข้องกับการมองเห็น แสดงทั้งบนจอคอมพิวเตอร์ หรือ อุปกรณ์สมาร์ทโฟนที่แสดงผลสามมิติได้ โดยเราสามารถโต้ตอบกับสิ่งแวดล้อมเสมือนได้ ซึ่งสภาพแวดล้อมจำลองยังสามารถทำให้คล้ายกับโลกจริงได้ เช่น การจำลองสำหรับการฝึกนักบิน
Mixed Reality (MR)
จุดเด่นของ Mixed Reality คือการผสานระหว่าง Augmented Reality และ Virtual Reality เข้าด้วยกัน ทำให้วัตถุในโลกเสมือนจริงนั้นซ้อนทับกับโลกความจริง โดยที่เราสามารถมองเห็นและสัมผัสกับโลกรอบตัว แม้ในขณะที่โต้ตอบกับสภาพแวดล้อมเสมือนด้วยมือของเราเองโดยที่ไม่ต้องถอดแว่น ตัวอย่างการใช้งาน MR เช่น ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ พัฒนา “MR Sales Gallery” ห้องตัวอย่างเสมือนจริงที่จำลองสภาพแวดล้อมให้ลูกค้าได้สัมผัสบรรยากาศของโครงการที่พักอาศัยได้แบบอินเทอร์แอ็คทีฟ
เทคโนโลยี Interface Technology เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่มีการเติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง สามารถตอบสนองการใช้งานได้หลากหลายจุดประสงค์ไม่ว่าเป็นด้านความบันเทิง การแพทย์ รวมถึงอุตสาหกรรมการผลิตที่สามารถแสดงผล 3D ได้ทั้งบนอุปกรณ์สมาร์ทโฟน หรือในพื้นที่จริงคล้ายกับภาพโฮโลแกรมจากภาพยนตร์วิทยาศาสตร์เลยทีเดียว
0 Comment