AI Parking เพิ่มประสบการณ์บนท้องถนนและลานจอดรถด้วยระบบ AI อัจฉริยะ

มีใครที่เคยสูญเสียเวลาในการวนหาที่จอดรถจนอยากจะร้องไห้ออกมาบ้างไหมครับ? แต่ในโลกยุคนี้จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างไปตลอดกาล การวนหาที่จอดรถตามห้างสรรพสินค้า โรงแรม สนามบิน หรือสถานที่ต่าง ๆ จะไม่ใช่เรื่องวุ่นวายอีกต่อไป เมื่อมีเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI เข้ามามีส่วนช่วยในการบริหารจัดการพื้นที่การจอดรถแล้ว 

ไปดูกันที่ฝั่งสหรัฐอเมริกากันดูว่าเป็นอย่างไร ปัจจุบันมีรายงานเรื่องการเกิดขึ้นของระบบ AI ที่มีความสามารถในการตรวจจับจุดจอดรถในพื้นที่เปิดได้ เนื่องด้วยมีพื้นที่จอดรถมากถึง 2 พันล้านแห่งในสหรัฐอเมริกา การหาจุดจอดตามพื้นที่เปิดในเมืองใหญ่อาจเป็นเรื่องยากสำหรับผู้ที่ขับขี่บนท้องถนน จึงมีการตั้งจุดประสงค์เพื่อที่จะช่วยให้นักวางผังเมืองและคนที่ขับรถในเมืองใหญ่สามารถจัดการและค้นหาพื้นที่จอดรถตามสถานที่เปิดต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น นักวิจัยของ MIT จึงได้พัฒนาระบบที่ใช้การเรียนรู้เชิงลึกซึ่งสามารถตรวจจับจุดจอดรถในพื้นที่เปิดจากวิดีโอที่ประมวลผลแบบเรียลไทม์ได้โดยอัตโนมัติ

มีการใช้งานระบบ GPU NVIDIA GeForce GTX 1080Ti พร้อมด้วยเฟรมเวิร์กการเรียนรู้เชิงลึก TensorFlow ผสานกับ cuDNN-accelerated โดยทีมงานที่ทำงานวิจัยได้ฝึกอบรมเกี่ยวกับเครือข่าย convolutional neural network เกี่ยวกับรูปภาพและวิดีโอนับล้านจากชุดข้อมูลต่าง ๆ หลายชุด รวมถึงชุดข้อมูล COCO เพื่อตรวจจับยานพาหนะและขอบเขตของพวกมัน เมื่อผ่านการฝึกอบรมแล้ว ระบบสามารถตรวจจับพื้นที่จอดรถในสถานที่เปิดโล่งได้อย่างแม่นยำมากขึ้น 

ภาพด้านบนนี้แสดงผลของ algorithm การแบ่งส่วน instance ที่ใช้ในการศึกษาพื้นที่จอดรถในครั้งนี้ ซึ่งตรวจจับ object classes ที่สนใจ และทำการ localizes ด้วย bounding box อีกทั้งยังมีการแปลผลในระดับ pixel-level ด้วย และระบบนี้ยังมีความสามารถในการคัดกรองจำนวนฟีเจอร์ต่าง ๆ สีของยานพาหนะ หรือแม้แต่ประเภทและชนิดของยานพาหนะว่าเป็นแท็กซี่แบบดั้งเดิม รถบรรทุกส่งของ ข้อมูลการใช้งานพื้นที่แบบชั่วโมงต่อชั่วโมง และข้อมูลประวัติเกี่ยวกับรถต่าง ๆ ที่เข้ามาในพื้นที่จอดได้อีกด้วย

ในแง่ของความแม่นยำ ระบบทำงานได้ดีกว่าวิธีการที่ใช้รูปภาพล้วน ๆ ในการประมวลผล และตัวระบบเองยังมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับระบบเชิงพาณิชย์ขั้นสูงที่ใช้ sensors ที่มีราคาสูงกว่าอีกด้วย ดังผลลัพธ์ความแม่นยำจากชุดข้อมูลการตรวจสอบความถูกต้องในรูปภาพตารางการแสดงข้อมูลด้านบน (อ้างอิง: NVIDIA DEVELOPER)

การจอดรถในที่จอดรถโดยอัตโนมัติ หรือ Automated Valet Parking (AVP) กำลังถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องอย่างมีประสิทธิภาพในทั่วโลก ที่สอดคล้องกับภาพใหญ่ของระบบขับขี่อัตโนมัติ (Autonomous Drive) ในเมืองแฟรงก์เฟิร์ตประเทศเยอรมันนี Continental บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของเยอรมนี กำลังมีแผนพัฒนาอย่างจริงจัง 

บริษัทเทคโนโลยี Continental กำลังลงทุนในบริษัทสตาร์ทอัพ Kopernikus Automotive ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติบริษัทสตาร์ทอัพ Kopernikus ได้พัฒนาโซลูชันสำหรับการเคลื่อนย้ายยานพาหนะโดยใช้โครงสร้างพื้นฐาน เทคโนโลยีนี้ใช้เซ็นเซอร์ที่ติดตั้งถาวรในโครงสร้างพื้นฐานและอัลกอริธึมที่ใช้ AI เพื่อเคลื่อนย้ายยานพาหนะต่าง ๆ ทั้งในพื้นที่ผลิต หรือยานพาหนะในพื้นที่การขนส่ง

ข้อกำหนดเบื้องต้นของเทคโนโลยีนี้ คือ การใช้ฟังก์ชันเพิ่มเติมของรถ (Central Motion Control) ในการแปลงเส้นทางที่ระบุโดยโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะให้เป็นการควบคุมโดยหน่วยควบคุมกลไกที่เกี่ยวข้อง และต้องการส่วนประกอบของรถยนต์ที่จำเป็น ได้แก่ เกียร์อัตโนมัติ เบรกจอดรถแบบไฟฟ้า ระบบช่วยบังคับเลี้ยวไฟฟ้า และหน่วยสื่อสารอัจฉริยะซึ่งเป็นส่วนประกอบที่ติดตั้งเป็นมาตรฐานในรถยนต์หลาย ๆ คัน (อ้างอิง: Continental) 

จากความอัจฉริยะของ AI ในการจอดรถที่ต่างประเทศ มาดูการพัฒนาของรูปแบบการจ่ายเงินค่าจอดรถในประเทศไทยกันบ้าง ปัจจุบันระบบการเงินการธนาคารในประเทศไทยถือเป็นระบบที่ดีที่สุดในอันดับต้น ๆ ของโลก และประชากรในประเทศไทยก็ใช้งานระบบ Internet Mobile Banking กันอย่างแพร่หลายด้วย ทำให้บริษัทห้างร้านต่าง ๆ ต่างพัฒนารูปแบบการให้บริการต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับรูปแบบการใช้งานของคนไทย รวมไปถึงการจ่ายเงินค่าสถานที่จอดรถตามห้างสรรพสินค้าด้วย

ล่าสุดอย่างบริษัทเซ็นทรัลพัฒนาก็มีการเปิดให้บริการ Cashless Payment Parking บริการชำระค่าจอดรถแบบใหม่ ไร้สัมผัสของศูนย์การค้าเซ็นทรัลซึ่งมีความ สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยเพื่อรองรับการใช้ชีวิตวิถีใหม่ New Normal นั่นเอง โดยที่ผ่านมาศูนย์การค้าเซ็นทรัลได้นำเอาเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการให้บริการลูกค้า เพื่อลดการสัมผัสในขั้นตอนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นระบบสแกนคิวอาร์โค้ด (Cashless Payment) หรือแม้แต่บริการลิฟต์ไร้สัมผัสผ่านระบบเซ็นเซอร์เพื่อสร้างบรรทัดฐานที่ดีในการดูแลให้พื้นที่ศูนย์การค้าเป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับการออกมาใช้ชีวิตของประชาชน

การใช้บริการ Cashless Payment Parking ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ในการเข้าใช้บริการลานจอดรถในห้างสรรพสินค้าผู้ใช้งานสามารถวางมือหน้าระบบเซ็นเซอร์ ปุ่มสีเงิน และรับบัตรจอดรถ และสามารถสแกน QR Code เพื่อตรวจสอบค่าบริการที่จอดรถได้ง่าย ๆ จากโทรศัพท์มือถือ และชำระเงินก่อนกลับไปที่รถของเราที่จอดอยู่ โดยสามารถเลือกช่องทางการชำระเงินผ่าน 3 ช่องทาง ได้แก่

- Mobile E-Payment ผ่าน Mobile Banking โดยการสแกน QR Code บนบัตรจอดรถด้วยกล้องโทรศัพท์หรือแอพสำหรับสแกน QR

- Kiosk E-Payment ชำระผ่านจุดบริการตู้ Kiosk ทาง True Money Wallet และ Dolfin ในห้างสรรพสินค้าและประตูเชื่อมต่ออาคารจอดรถทั่วศูนย์การค้า

- ชำระด้วยเงินสดผ่านเคาน์เตอร์ชำระค่าจอดรถบริเวณจุดประชาสัมพันธ์ภายในศูนย์การค้า

ซึ่งเมื่อถึงป้อมทางออกกรณีที่ชำระเงินแล้วไม้กั้นจะเปิดโดยอัติโนมัติ หากไม้กั้นไม่เปิด สามารถใช้บัตรจอดรถสแกนที่ช่องอ่าน QR Code ได้เลย แต่หากต้องการความช่วยเหลืออื่น ๆ เพิ่มเติมเนื่องจากระบบขัดข้องก็สามารถกดปุ่ม SOS ที่ป้อมทางออกแล้วจะมีเจ้าหน้าที่เข้ามาให้บริการเลยทันที 

นี่ถือเป็นการก้าวสู่โลกไร้เงินสดอย่างเต็มรูปแบบ รวมถึงกลายเป็นโลกของการทำงานด้วยระบบ AI อัตโนมัติอย่างเต็มรูปแบบเช่นเดียวกัน จะมีใครบ้างที่นึกฝันว่าในวันหนึ่งแค่การจอดรถจะกลายเป็นปัญหาใหญ่ของมนุษย์ที่ถึงกับต้องดึงเอาเทคโนโลยีจาก AI เข้ามาช่วยจัดการระบบนี้ซึ่งการบริหารการจอดรถอัจฉริยะ นอกจากจะสามารถสร้างความสะดวกสบายให้กับผู้คนแล้วนั้น ยังสามารถประหยัดต้นทุนในการบริหารหรือจ้างพนักงานในการดูแลลานจอดรถมากขึ้นอีกด้วย มาจับตาดูกันต่อว่าในอนาคตระบบ AI Parking ที่ถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องในต่างประเทศจะถูกนำมาปรับใช้ในไทยอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดอย่างไร จะสามารถแก้ปัญหาการวนหาที่จอดรถอันแสนยากเข็ญของผู้คนในเมืองใหญ่ได้มากขนาดไหน และความก้าวหน้าด้าน Cashless Payment Parking บริษัทเจ้าใหญ่ในไทยอย่างเซ็นทรัลพัฒนาที่พัฒนาขึ้นมาจะถูกกระจายออกไปสู่ห้างเซ็นทรัลในต่างจังหวัดอย่างมีประสิทธิภาพได้ไหม และบริษัทห้างร้านอื่น ๆ จะเรียนรู้วิธีการและนำไปปรับใช้เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้คนในสังคมได้อย่างไร