×

START A PROJECT

We are here to build a high-quality extension for brands to serve your consumers.

    By Kaewklaow Robru - 03 พฤศจิกายน 2022

    “โทรศัพท์” เทคโนโลยีที่ทำให้การสื่อสารทางไกลของมนุษย์กลายเป็นเรื่องง่ายดาย

    ปัจจุบันเราคงจะนึกภาพไม่ออกแล้วว่าชีวิตที่ไร้ซึ่งโทรศัพท์มือถือหรือสมาร์ตโฟนนั้นจะเป็นอย่างไร เด็กที่เกิดมาในยุคนี้เริ่มรู้จักและหัดใช้โทรศัพท์ตั้งแต่ยังเด็ก ทุกสิ่งอย่างในชีวิตประจำวันล้วนยึดโยงกับโทรศัพท์มือถือทั้งหมดทั้งสิ้น ว่ากันว่าโทรศัพท์นั้นเป็นเครื่องมือที่ออกแบบมาเพื่อส่งและรับเสียงมนุษย์พร้อมกัน โทรศัพท์ในปัจจุบันอาจมีราคาที่ไม่แพงมากในบางรุ่น ใช้งานง่าย และให้การสื่อสารส่วนบุคคลในทันทีแก่ผู้ใช้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถรับผ่านสื่ออื่นได้ จึงทำให้กลายเป็นอุปกรณ์โทรคมนาคมที่ใช้กันแพร่หลายมากที่สุดในโลก ปัจจุบันมีการใช้โทรศัพท์หลายพันล้านเครื่องทั่วโลก 

    ภาพที่ 1; Black Rotary Phone จาก; https://www.pexels.com/@pixabay/

    The telephone instrument

    คำว่า โทรศัพท์ ภาษาอังกฤษคือ Telephone มาจากรากศัพท์ภาษากรีก tēle “far” แปลว่า “ไกล” และ phonē “sound” แปลว่า “เสียง” ซึ่งในภาษาไทยก็มีความหมายเดียวกันคือแผลงมาจากภาษาสันสกฤต दूर (ทูร) แปลว่า “ไกล” และ शब्द (ศพฺท) แปลว่า “เสียง” โดยคำว่า Telephone ถูกนำมาใช้ในช่วงต้นศตวรรษที่ 17 กับโทรศัพท์เครื่องสายที่เด็ก ๆ คุ้นเคย และต่อมาใช้เพื่ออ้างถึงโทรโข่ง (megaphone) และ หลอดพูด (speaking tube) แต่ในการใช้งานสมัยใหม่หมายถึงอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ได้มาจากการประดิษฐ์ของอเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ (Alexander Graham Bell) และคนอื่น ๆ เท่านั้น 

    ภาพที่ 2; String telephone จาก; https://www.pexels.com/@ron-lach/

    นับตั้งแต่มาอเมริกาในฐานะครูสอนคนหูหนวก อเล็กซานเดอร์ เกรแฮม เบลล์ได้หาวิธีถ่ายทอดคำพูดทางอิเล็กทรอนิกส์ เขาคิดค้นโทรศัพท์ในเดือนมีนาคม ปี 1876 เบลล์ตั้งห้องทดลองและทำงานเพื่อปรับปรุงสิ่งประดิษฐ์ของเขา ผลลัพธ์ที่ได้คือโฟโต้โฟน (photophone) ที่สามารถส่งเสียงผ่านลำแสงได้ เบลล์ทำสิ่งที่เป็นการโทรไร้สายครั้งแรกของประวัติศาสตร์โดยพื้นฐานได้ในครั้งนั้น และหลังจากนั้นเอง Alexander Graham Bell ก็ได้ยื่นสิทธิบัตรสำหรับโทรศัพท์ของเขาที่สำนักงานสิทธิบัตรของสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ปี 1876 เพียงสองชั่วโมงก่อนหน้าที่ เอลีชา เกรย์ ซึ่งเป็นคู่แข่งกันในขณะนั้น จะยื่นประกาศเจตนาที่จะยื่นจดสิทธิบัตรสำหรับอุปกรณ์ที่คล้ายคลึงกัน

    ภาพที่ 3; telephone: Alexander Graham Bell's sketch of a telephone จาก; © Photos.com/Jupiterimages

    โทรศัพท์ยังคงพัฒนาต่อไปตามกาลเวลา ชาร์ลส์ วิลเลียมส์ จูเนียร์ เปิดตัวเครื่องมือโทรศัพท์เครื่องแรกสุดที่จะเห็นการใช้งานทั่วไปในปี 1882 ออกแบบมาเพื่อติดตั้งบนผนัง เครื่องมือนี้ประกอบด้วยเครื่องสั่น แมกนีโตแบบใช้มือหมุน ตัวรับสัญญาณมือ ตะขอสวิตช์ และเครื่องส่ง เครื่องดนตรีโทรศัพท์รุ่นนี้ยังคงใช้กันทั่วสหรัฐอเมริกาจนถึงช่วงปลายทศวรรษ 1950 แป้นหมุนโทรศัพท์มีต้นกำเนิดมาจากระบบสลับโทรศัพท์อัตโนมัติในปี 1896 

    ภาพที่ 4; AT&T magneto wall telephone จาก; Courtesy of AT&T Bell Laboratories/AT&T Archives

    โทรศัพท์แบบตั้งโต๊ะสร้างขึ้นครั้งแรกในปี 1897 โดยมีรูปแบบตามโทรศัพท์ติดผนัง โดยปกติแล้วจะประกอบด้วยเครื่องรับและเครื่องส่งแยกต่างหาก อย่างไรก็ตาม ในปี 1927 บริษัทโทรศัพท์และโทรเลขของอเมริกา (AT&T) ได้เปิดตัวโทรศัพท์รุ่น E1A ซึ่งใช้การจัดเรียงเครื่องส่ง-เครื่องรับแบบผสมผสาน เสียงกริ่งและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของโทรศัพท์ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ในกล่องแยก ซึ่งที่จับเครื่องส่ง-เครื่องรับถูกประคองไว้เมื่อไม่ใช้งาน โทรศัพท์เครื่องแรกที่รวมส่วนประกอบทั้งเป็นเครื่องเดียวเรียกว่าชุดรวมของปี 1937 มีการผลิตประมาณ 25 ล้านชิ้นจนกระทั่งได้รับการออกแบบใหม่ในปี 1949 โทรศัพท์ปี 1949 เป็นของใหม่ทั้งหมด โดยผสมผสานการปรับปรุงคุณภาพเสียง การออกแบบกลไก และโครงสร้างทางกายภาพอย่างมีนัยสำคัญ รุ่นปุ่มกดของชุดนี้วางจำหน่ายในปี 1963

    ภาพที่ 5; AT&T combined desk telephone, 1937. จาก; Courtesy of AT&T Bell Laboratories/AT&T Archives

    Personal communication systems

    Motorola เปิดตัวโทรศัพท์มือถือ DynaTac ในปี 1983 ชื่อเล่นว่า "The Brick" มีเวลาสนทนาหนึ่งชั่วโมงและสแตนด์บายแปดชั่วโมง เพียงไม่กี่ปีหลังจากการเปิดตัว "The Brick" ในปี 1989 โมโตโรล่าได้พัฒนาอุปกรณ์มือถือที่เบาที่สุดในตลาด โทรศัพท์เรียกว่า MicroTAC และมีน้ำหนักเพียง 12 ออนซ์ โดยในหลายประเทศทั่วโลกมีบริการไร้สายที่เรียกว่าระบบสื่อสารส่วนบุคคล (PCS) ในความหมายที่กว้างที่สุด PCS ประกอบด้วยการสื่อสารไร้สายทุกรูปแบบที่เชื่อมต่อถึงกันกับเครือข่ายโทรศัพท์สลับสายสาธารณะ รวมถึงโทรศัพท์มือถือและระบบการติดต่อสื่อสารสาธารณะด้านการบิน PCS เครื่องแรกที่จะนำมาใช้คือระบบโทรศัพท์ไร้สายรุ่นที่สอง (CT-2) ซึ่งเริ่มให้บริการในสหราชอาณาจักรในปี 1991 

    ภาพที่ 6; Motorola DynaTac (The Brick) จาก; https://www.cooperhewitt.org/2018/02/25/28599/

    Smartphone

    ในปี 1993 สมาร์ตโฟนเครื่องแรกก็ออกมาให้คนทั่วไปได้เห็นและจับจองเป็นเจ้าของกันทั่วโลก โดย IBM ได้สร้าง Simon ซึ่งมีหน้าจอสัมผัสและสามารถส่งและรับแฟกซ์ได้ ซึ่งนับว่าเป็นเรื่องที่ล้ำมากในสมัยนั้น โดยระบบโทรศัพท์พกพาส่วนบุคคลหรือ PHS ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับสาธารณชนในปี 1994 ได้รับความนิยมทั่วทั้งเขตเมืองเพื่อเป็นทางเลือกแทนระบบเซลลูล่าร์ รองรับการรับส่งข้อมูลที่ความเร็ว 32 และ 64 กิโลบิตต่อวินาที สามารถใช้เป็นโมเด็มไร้สายความเร็วสูงสำหรับการเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ในสหรัฐอเมริกาในปี 1994–1995 Federal Communications Commission (FCC) ขายใบอนุญาตจำนวนหนึ่งในภูมิภาค 1.85–1.99 กิกะเฮิรตซ์เพื่อใช้ในแอปพลิเคชัน PCS 

    ภาพที่ 7; IBM Simon จาก; https://en.wikipedia.org/wiki/IBM_Simon

    ในปี 1995 Sprint ได้เปิดบริการสื่อสารส่วนบุคคลครั้งแรก เป็นเครือข่ายเซลลูล่าร์แรกที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานส่วนตัวสำหรับผู้ที่เป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือ บริษัทที่ชื่ออิริเดียมได้ติดตั้งดาวเทียม 64 ดวงในปี 1998 เพื่อจะนำไปสู่การพัฒนาสมาร์ตโฟนที่ทันสมัยยิ่งขึ้น โดยในปี 2003 เทคโนโลยีได้รับการพัฒนาเพื่อส่งสายโทรศัพท์ผ่านโปรโตคอลอินเทอร์เน็ต สามารถหลีกเลี่ยงค่าใช้จ่ายทางไกลได้โดยใช้เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่จัดตั้งขึ้นมานั่นเอง สมาร์ตโฟนยังคงพัฒนาต่อไปเรื่อย ๆ ในปี 2010 โทรศัพท์มือถือ 4G เครื่องแรกก็ได้ถูกเปิดตัวออกมาให้ผู้คนทั่วโลกได้เห็นและนำข้อมูลเข้าสู่โทรศัพท์ของผู้บริโภคด้วยความเร็วที่รวดเร็วอย่างเห็นได้ชัด

    ภาพที่ 8; Samsung Galaxy Z Flip in Black จาก;https://unsplash.com/@rmrdnl

    ปัจจุบันเครือข่ายมือถือและอินเทอร์เน็ตก้าวไปสู่ยุคที่เรียกได้ว่าเกินกว่ามนุษย์ในยุคก่อนหน้านี้จะจินตนาการได้ และในอนาคตก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในด้านเทคโนโลยีการสื่อสารที่ก้าวหน้ามากขึ้นเกินกว่ามนุษย์อย่างเราในตอนนี้จะจินตนาการได้เช่นเดียวกัน

    (Source: Britannica และ Mitel)

    0 Comment