เครื่องมือยอดนิยมชาว UX/UI Designer

ปัจจุบันสายงานอย่าง UX/UI Designer มีความจำเป็นกับโลกยุคดิจิทัลเป็นอย่างมาก เครื่องมือสำหรับนักออกแบบจึงมีความจำเป็นที่จะตอบโจทย์การใช้งานของเหล่าดีไซน์เนอร์ด้วยเช่นกัน ปัจจุบันมี tools อย่างหลากหลายให้ดีไซน์เนอร์ได้เลือกใช้ แต่มาดูกันว่า tools ตัวไหนที่เป็น tool ยอดนิยมแต่ตบโจทย์การใช้งานของ UX/UI Designer กัน

ตัวแรกที่จะพูดถึงเป็น tool ที่มาแรงที่สุด หรืออาจเป็น tool ที่เหล่า UX/UI Designer ในโลกนี้เลือกใช้มากที่สุดก็เป็นได้ นั่นคือ figma นั่นเอง

Figma เปิดตัวเป็น Online tool ตั้งแต่ปี 2016 และเริ่มได้รับความนิยมอย่างมากช่วง 3 ปีมานี้ เนื่องมาจากการพัฒนาการใช้งานที่ตอบโจทย์การทำงานของดีไซน์เนอร์ อำนวยความสะดวกตั้งแต่ด้าน Graphic Design ด้าน UX/UI และง่ายต่อการใช้งานของ Developer อีกทั้ง figma สามารถอำนวยความสะดวกในเรื่องของการทำงานร่วมกันเป็นทีมที่ tools อื่น ๆ ยังไม่สามารถทำงานตรงนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเท่ากับ figma อีกด้วย สำหรับ UX/UI Designer การทำงานบน figma แทบจะมีทุกอย่างให้สามารถทำงานได้ในทุก ๆ ขั้นตอนตั้งแต่กระบวนการ Brainstorming ที่ทุกวันนี้ส่วนใหญ่เป็นการทำงานแบบ Hybrid Working หรือการ Work From Home ที่เราไม่ค่อยได้เจอหน้าค่าตากับคนในทีม Figma ก็เป็น Online tool อีกหนึ่ง tool ที่ทำให้เราทำงานส่วนนี้อย่างมีประสิทธิภาพด้วย อาจจะบน figma ตัวที่เราทำงานออกแบบ หรือเป็น figjam ที่ออกแบบมาเพื่อให้การทำงานในส่วนของขั้นตอนการ Brainstorming โดยเฉพาะ

อีกหนึ่งความสามารถของ figma ที่ดีไซน์เนอร์หลาย ๆ คนติดใจยอมจ่ายเงินให้และจงรักภักดีต่อ tool นี้คือในส่วนของ Plugin เสริมที่มีส่วนช่วยในการทำงานมาก ๆ figma มี Plugin ที่น่าสนใจหลาย ๆ ตัวที่ทำให้เราทำงานได้รวดเร็วและง่ายขึ้น เช่นการดาวน์โหลด icon หรือรูปภาพที่เราไม่จำเป็นต้องออกไปดาวน์โหลดจาก website ภายนอกแต่เราสามารถติดตั้ง Plugin เพื่อใช้งานอย่างรวดเร็วได้ ยังมี Plugin บน figma อีกมากมายที่มีความจำเป็นต่อการใช้งานด้านการออกแบบ UX/UI หากมีโอกาสผมอาจจะเขียนบทความแนะนำ Plugin ที่มีคุณค่าต่อการทำงานให้ทุกคุณได้อ่านในคราวหน้า

และอีกหนึ่งความดีงามของ figma คือการแชร์ไฟล์เป็น Public บน Community เพื่อให้ผู้คนได้เห็นงานของเราและได้นำไปใช้งานต่อหรือเป็น reference ได้ ในทางเดียวกันคือเราก็สามารถดู fedference งานของคนอื่น ๆ บน Community ได้ หรืออาจจะมีบางชิ้นงานที่ผู้ใช้งานอนุญาตให้เรานำมาต่อยอดการทำงานที่ง่ายขึ้นได้ด้วย

อีกหนึ่ง tool ที่จะไม่พูดถึงไม่ได้นั่นก็คือ Sketch นั่นเอง ซึ่ง Sketch เป็น โปรแกรมบนระบบปฏิบัติการ Mac OS ที่เปิดตัวในใช้งานกันในปี 2010 ซึ่งภายในระยะเวลาสั้น ๆ Sketch ก็สามารถคว้ารางวัล Apple Design Award ในปี 2012, Best of 2012 และ Best of 2014 ใน Mac App Store ได้อย่างไม่น่าแปลกใจ เพราะเหล่าบริษัทใหญ่ ๆ อย่าง Nintendo, Stripe, Porsch, Google, Facebook หรือแม้กระทั้ง XBox เองก็หันมาใช้ Sketch กันถ้วนหน้า

ซึ่งข้อดีของ Sketch มีมากมายไม่ว่าจะเป็นการทำงานด้าน Graphic Design ที่สามารถวาดแบบ Vector และ Illastration ได้ และสามารถหยิบงาน Graphic ของเราจากโปรแกรมอื่น ๆ เข้ามาใช้งานบน Sketch ได้ มีระบบ Plugin เสริมและสามารถใช้งานแบบ Offline ได้ ส่วนข้อเสียของ Sketch คือรองรับแค่ระบบ Mac OS เท่านั้น

มาถึงตัวสุดท้ายจากตระกูล Adobe อย่าง Adobe XD ที่หลาย ๆ คนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเป็นโปรแกรมที่ใช้ง่ายมาก ๆ อาจจะเพราะมาตรฐานของความเป็น Adobe ซึ่งเราคุ้นเคยจากการใช้งานโปรแกรมอื่น ๆ ของตระกูลนี้อยู่ก็เป็นได้

แม้ในปัจจุบันจะมี tool มากมายสาหรับ UX/UI Designer แต่ Adobe XD ก็ยังคงครองใจเหล่าดีไซน์เนอร์และยังได้รับความนิยมอยู่เป็นอย่างมาก ส่วนหนึ่งอาจะมาจากเป็นโปรแกรมที่สามารถรองรับการใช้งานกับทุก ๆ ระบบ และเป็นโปรแกรมจากตระกูล Adobe ที่ได้รับความน่าเชื่อถืออยู่แล้ว และในเรื่องของราคา ที่มีช่วงใช้งานฟรีและค่าใช้จ่ายหลังจากการใช้งานฟรีแล้วอยู่ที่ประมาณเดือนละ 9$ เท่านั้น

ซึ่งจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งของ Adobe XD คือการแชร์ไฟล์ทำงานร่วมกับทีมผ่าน Adobe Cloud ได้ ซึ่งรับรองความปลอดภัยได้แน่นอนสามารถร่วมกันแก้ไขและออกแบบร่วมกันสำหรับสมาชิกในทีมได้ หรือหากมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นระหว่างการทำงาน Adobe XD ก็จัดการ User Experience ส่วนนี้มาอย่างดีโดยการทำในส่วนของ Version Control มาให้สามารถย้อนดู History การออกแบบได้สูงสุด 30 วันย้อนหลัง เพื่อให้สามารถจัดการในส่วนนี้ได้

ซึ่งจากการจัดอันดับล่าสุดในปี 2021 ของ uxtools.co ตัวโปรแกรมของ Adobe XD เองเป็นโปรแกรมระดับ TOP3 ที่ดีไซน์เนอร์เลือกใช้ในส่วนของการทำ UI Design การทำ Prototype การทำ Hand Off และ Design System ซึ่งโดยเฉพาะอย่างยิ่งการทำ Prototype ที่มี tools ต่าง ๆ มากมายให้เลือกใช้ในปัจจุบันนี้ แต่ Adobe XD ก็ยังคงได้รับความนิยมสูงสุดแซงหน้า Inivsion ไปแล้วเป็นรองเพียงแค่ Figma เท่านั้น

จะเห็นว่าในส่วนของการทำงานด้าน UX/UI นั้นมีขั้นตอนการทำงานที่หลากหลายรวมถึง tools ต่าง ๆ ในการใช้งานแต่ละขั้นตอนที่แตกต่างกันออกไปด้วย ดีไซน์เนอร์หลาย ๆ ท่านต่างก็เรียนรู้การใช้งาน tools ต่าง ๆ หลาย ๆ tools ที่มีอยู่ในปัจจุบันนี้เพื่อศึกษาความรู้และเป็นการเพิ่มทักษะการทำงานด้วย เพราะมีบริษัทหลายล้านบริษัทบนโลกใบนี้ซึ่งก็ใช้ tools ในการทำงานแตกต่างกันออกไปด้วย ในแง่ของการทำงาน การเรียนรู้และเข้าใจ tools มากกว่า 1 ชนิดนั้นย่อมเป็นการเปิดโอกาสให้เราได้เรียนรู้การทำงานที่มากขึ้นด้วย มี tools อีกมากมายที่ผมไม่ได้พูดถึงในบทความนี้ อาจเป็น tool ที่หลาย ๆ คนเลือกใช้ก็เป็นไปได้แล้วทุกคนล่ะครับใช้ tools ตัวไหนแล้วคิดว่าเป็น tool ที่ใช่สำหรับคุณ