พัฒนาเอกลักษณ์องค์กรด้วยการทำ Corporate Website

พัฒนาเอกลักษณ์องค์กรด้วยการทำ Corporate Website

Corporate Website คืออะไร? ช่วยพัฒนาเอกลักษณ์องค์กรได้อย่างไร? รวมถึงเคล็ดลับสำหรับองค์กรเพื่อให้ได้เว็บไซต์ที่ดีที่สุดสำหรับองค์กรของคุณ

คุณสมบัติของเว็บไซต์ Corporate Website ที่ดี

มีข้อมูลครบถ้วน และต้องลำดับเรื่องถูกต้องเข้าใจง่าย

เพราะเป้าหมายในการสร้างเว็บไซต์ คือการสื่อสารกับผู้คน เพื่อให้การสร้างเว็บไซต์มีประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้นข้อมูลหรือเนื้อหาบนเว็บไซต์จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด องค์กรของคุณจึงควรจัดเตรียมเนื้อหา หรือออกแบบหน้าเว็บไซต์เพื่อวางข้อมูล ลำดับความสำคัญของข้อมูลต่าง ๆ ให้ถูกต้องและเข้าใจได้ง่ายโดยคำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นหลัก อีกทั้งต้องระวังอย่าให้สะกดผิด หรือเขียนผิด เพราะจะส่งผลต่อความน่าเชื่อถือได้ นอกจากนี้เนื้อหาข้อมูลเว็บไซต์ของคุณต้องเป็นปัจจุบัน ไม่ล้าหลังและอัพเดตอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิด หรือเว็บไซต์ดูไม่ทันสมัย ไม่น่าเข้าใช้งาน

ซับพอร์ต SEO

เเน่นอนว่าเว็บไซต์ที่ดีต้องรองรับ SEO (search engine optimization) เพื่อเพิ่มโอกาสให้ผู้ใช้งาน สามารถพบเว็บไซต์ขององค์กร หรือบริษัทของคุณ เพราะในปัจจุบันผู้ใช้งานมีแนวโน้มที่จะกดเข้าเว็บไซต์แบบออแกนิก หรือเว็บไซต์ที่ไม่มีสัญลักษณ์ ads มากกว่า ดังนั้นหากเว็บไซต์ของคุณถูกออกแบบมาให้สนับสนุนกับ SEO ก็จะทำให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสติดอันดับต้น ๆ อยู่หน้าแรก ๆ เพิ่มโอกาสเข้าถึงผู้คนได้แบบไม่ต้องเสียเงินลงโฆษณา อีกทั้งยังได้ผลดีเกินคาดอีกด้วย

User friendly & mobile friendly

เว็บไซต์ที่มีลักษณะ User friendly & mobile friendly คือเว็บไซต์ที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน และสามารถใช้งานได้จากโทรศัพท์มือถือ เนื่องจากเว็บไซต์ที่มีรูปแบบเรียบง่าย สามารถเข้าใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน (easy to use) จะทำให้การเดินทางของผู้ใช้งานบนเว็บไซต์มีประสิทธิภาพมากขึ้น หากใช้งานได้ยากแน่นอนว่ามีโอกาศที่จะกดออกได้ง่าย ไม่ไปต่อหน้าอื่น ๆ บนเว็บไซต์ของคุณ นอกจากนี้ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตส่วนใหญ่ เกินครึ่งเข้าใช้งานด้วยมือถือ หรืออุปกรณ์แบบพกพา มากกว่าจะค้นหาบนคอมพิวเตอร์ เนื่องจากสะดวกสบาย และรวดเร็วมากกว่า ดังนั้นเว็บไซต์ที่รองรับการใช้งานบนมือถือ จะช่วยให้ผู้ใช้งานประทับใจมากยิ่งขึ้น

มีระบบช่วยจัดการข้อมูลหลังบ้าน

ข้อที่กล่าวมาด้านบนดูเหมือนจะเอาใจผู้ใช้งานเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นข้อสุดท้ายนี้จึงเกี่ยวข้องกับหลังบ้านการใช้งานเว็บไซต์สำหรับองค์กร หรือบริษัท เว็บไซต์ที่ดีควรมีระบบช่วยจัดการข้อมูลหลังบ้านที่ใช้งานได้ง่ายไม่ซับซ้อน เนื่องจากพนักงานที่ใช้งานส่วนใหญ่ไม่มีความรู้เฉพาะด้านโปรแกรมเพียงพอ ดังนั้นหากเข้าไปแก้ไข ปรับปรุงหลังบ้านได้ง่าย ก็จะทำให้การสื่อสารกับผู้ใช้งานภายนอก เป็นไปได้อย่างทันถ้วงที และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

เริ่มต้นการทำเว็บไซต์อย่างชาญฉลาด

ข้อที่กล่าวมาด้านบนดูเหมือนจะเอาใจผู้ใช้งานเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้นข้อสุดท้ายนี้จึงเกี่ยวข้องกับหลังบ้านการใช้งานเว็บไซต์สำหรับองค์กร หรือบริษัท เว็บไซต์ที่ดีควรมีระบบช่วยจัดการข้อมูลหลังบ้านที่ใช้งานได้ง่ายไม่ซับซ้อน เนื่องจากพนักงานที่ใช้งานส่วนใหญ่ไม่มีความรู้เฉพาะด้านโปรแกรมเพียงพอ ดังนั้นหากเข้าไปแก้ไข ปรับปรุงหลังบ้านได้ง่าย ก็จะทำให้การสื่อสารกับผู้ใช้งานภายนอก เป็นไปได้อย่างทันถ้วงที และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

1. วางกลยุทธและกำหนดจุดประสงค์ของเว็บไซต์

ตามที่กล่าวไปข้างต้นของบทความ แน่นอนว่าจุดประสงค์ของเว็บไซต์มีความสำคัญ เนื่องจากเว็บไซต์มีหลายประเภท ดังนั้นเเนวทางที่ชัดเจนมีผลทำให้ขั้นตอนต่อไปในการสร้างเว็บไซต์ราบรื่น และมีประสิทธิภาพ หากองค์กรต้องการนำเสนอหรือสื่อสารแบบใด ควรกำหนดให้ชัดเจน เพื่อที่จะได้สร้างรายละเอียดต่าง ๆ ให้ตอบโจทย์ที่สุด ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างเว็บไซต์ รูปแบบหน้าตา เพื่อแสดงออกถึงความเป็นองค์กรของคุณให้ได้มากที่สุด

2 . พัฒนาเว็บไซต์ให้รองรับการแสดงผลแบบ Responsive Design

Responsive design คือ การออกแบบเว็บไซต์ให้เปลี่ยนการแสดงผล ไปตามขนาดหน้าจอแสดงผลไปตามหน้าจอขนาดต่าง ๆ อย่างเหมาะสม เนื่องจากผู้ใช้งานเว็บไซต์ มีการใช้งานอุปกรณ์ที่หลากหลาย ทำให้ขนาดและความละเอียดของหน้าจอในอุปกรณ์ที่ผู้ใช้งานใช้มีความแตกต่างกัน ดังนั้นดีไซน์เนอร์จำเป็นต้องดีไซน์ให้รองรับการแสดงผลทุกอุปกรณ์ที่สามารถใช้งาน web browsers ได้ เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลได้จากทุกอุปกรณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบนมือถือ เนื่องจากสถิติภายใน 5 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ เดือนพฤศจิกายน 2015 ถึง เดือนพฤศจิกายน 2020 พบว่าจำนวนผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตบน Mobile มีมากที่สุด รองลงมาจะเป็นผู้ใช้งานเป็น Desktop และ ตามมาด้วย Tablet ตามลำดับ

จากข้อมูลเท็จจริงนี้ ทำให้มีการดีไซน์ที่เรียกว่า “mobile friendly” ด้วย นั่นคือ การดีไซน์ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งานบนมือถือด้วยนั่นเอง สรุปได้ว่าการดีไซน์แบบ responsive design นั้น ควรคำนึงถึงการดีไซน์ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งานทุกอุปกรณ์นั่นเอง

3. วางแผนโปรโมทเพื่อเพิ่ม trafic และ lead ให้กับเว็บไซต์

เป็นอีกข้อที่ขาดไม่ได้ หากอยากให้การลงทุนสร้างเว็บไซต์ที่ตั้งใจสร้างขึ้นมานั้นคุ้มค่า คุณต้องทำการวางแผนเพื่อโปรโมทเว็บไซต์เพื่อให้ผู้ใช้งานมีโอกาสเจอเว็บไซต์ของคุณมากขึ้น อาจทำได้โดยการโฆษณา หรือการลงคอนเทนต์เพื่อให้เว็บไซต์มีการอัพเดตอยู่สม่ำเสมอ ซึ่งนอกจะเป็นผลดีต่ออันดับบน Search Engine อย่าง Google แล้ว ยังทำให้เว็บไซต์ขององค์กรของคุณมีtrafic และ lead เพิ่มขึ้นแบบไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกด้วย หรือหากองค์กรของคุณมีผู้ดูแลช่องทางออนไลน์ให้ทุกช่องทางแล้ว ก็จะยิ่งทำให้ทุก ๆ ช่องทางเชื่อมต่อกันได้ดี และส่งเสริมซึ่งกันและกันเนื่องจากผู้ดูแลจะรู้จักแพลตฟอร์มออนไลน์เป็นอย่างดี

4. เก็บฟีดแบคเพื่อต่อยอดและพัฒนาต่อในอนาคต

เว็บไซต์ที่ดีต้องมีข้อมูลเชิงลึก วัดผลได้ เนื่องจากข้อมูล insight เหล่านี้มีความจำเป็นอย่างมากสำหรับผลิตภัณฑ์ดิจิทัล ดังนั้นองค์กร หรือบริษัทต้องเก็บฟีดแบค หรือข้อมูลเชิงลึกของผู้ใช้งานเพื่อนำไปวิเคราะห์ และวางแผน ปรับปรุงกลยุทธ์ด้านดิจิทัลอื่น ๆ ต่อไป ซึ่งหากไม่มีความรู้และประสบการณ์ที่มากพอ ก็ยังมีเอเจนซี่ที่คอยดูแล ให้คำปรึกษา วิเคราะห์และรายงานผล ผู้คอยติดตามผลงานเพื่อพัฒนานาต่อยอดเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้นต่อไป ดังนั้นการเลือกเอเจนซี่ที่จะมาสร้างเว็บไซต์จึงมีความจำเป็นอย่างมาก

ด้านการทำเว็บไซต์

องค์กรควรให้ความสำคัญกับการใช้งานในระยะยาวเป็นหลัก เว็บไซต์ที่ดีนั้นควรรองรับความต้องการในการสื่อสารของการตลาดได้อยู่เสมอ และสามารถเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บให้ดีขึ้นไปเรื่อยๆ หรือที่เรียกว่า (Growth Driven Design) และควรมีระบบ CMS (Content Management System) ไว้ให้สำหรับผู้ดูแลเว็บใช้ในการแก้ไข เพิ่ม หรือจัดการข้อมูลต่างๆ บนหน้าเว็บไซต์ได้ด้วยตัวเองอย่างง่าย

ซึ่งในการเลือกผู้เชี่ยวชาญนั้นควรจะต้องมีคุณสมบัติในการทำเว็บไซต์แบบระยะยาว จากข้างต้นที่กล่าว หรือสามารถให้คำปรึกษาในเชิงเทคนิคต่างๆ เช่น การติดอันดับบน SEO หรือเทคโนโลยีที่เหมาะสมกับเว็บได้ รวมไปถึงเรื่องบริการหลังการขาย การรับประกันและดูแลเว็บไซต์หลังจากเริ่มใช้งานจริง ก็จะทำให้องค์กรทำเว็บอย่างคุ้มค่า และใช้ประโยชน์ได้จริง

ทั้งนี้ควรลิสฟังก์ชั่นที่ต้องการในเว็บไซต์ไว้ให้พร้อม เพื่อจะได้เพิ่มความรวดเร็วและแม่นยำในการทำงานกับ Software house หรือ Agency ที่รับทำเว็บ จะช่วยให้ประหยัดทั้งเวลาในการสื่อสาร และควบคุมค่าใช้จ่ายให้อยู่ในสโคปงานได้ชัดเจนอีกด้วย

ด้านการวางกลยุทธ์และ SEO

ควรเลือกเอเจนซี่ที่มีประสบการณ์โดยตรง สามารถวางกลยุทธ์ให้กับเว็บไซต์ปรับโครงสร้าง เพื่อรองรับและแก้ปัญหาด้าน SEO ได้อย่างตรงจุด มีแพคเกจราคาชัดเจน หากใช้งานเอเจนซี่ที่มีความเชี่ยวชาญสูง บางที่จะสามารถรับประกันอันดับ SEO ในหน้าเว็บไซต์ของคุณได้อีกด้วย รวมไปถึงบริการหลังการขาย การให้คำปรึกษา และดูแลอันดับ SEO ให้คงอยู่ในลำดับแรกๆ ได้เสมอ

สรุป
การทำเว็บไซต์องค์กรให้ประสบความสำเร็จนั้น ควรเริ่มตั้งแต่การวางแผนที่ดี มีการลำดับเรื่องในเว็บไซต์ที่ชัดเจนเข้าใจง่าย สื่อสารได้ตรงจุด มีดีไซน์ที่เป็นมิตรกับผู้ใช้งานในทุกๆ อุปกรณ์ และควรโฟกัสไปที่การพัฒนาเว็บไซต์ในระยะยาว ทำให้ต่อยอดพร้อมกับพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้นอยู่เสมอ มีเครื่องมีที่วัดผลได้ จะทำให้ทำเว็บไซต์ได้อย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ