อนาคตของรายได้: เพิ่มศักยภาพออนไลน์ของคุณด้วยแพลตฟอร์มทำเงินเหล่านี้

การสร้างรายได้ออนไลน์ได้รับความนิยมมากขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ด้วยการเพิ่มขึ้นของการทำงานแบบ Remote Work และ Gig Economy วิธีหนึ่งในการหาเงินออนไลน์คือการสร้างงานดิจิทัล ข้อดีอย่างหนึ่งของการสร้างงานดิจิทัลคือความยืดหยุ่นที่มีให้คุณสามารถทำงานได้จากทุกที่ ทุกเวลา ขอแค่คุณมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ งานดิจิทัลจำนวนมากคุณยังสามารถทำงานตามกำหนดเวลาของคุณเองและสร้างสมดุลระหว่างงานกับภาระผูกพันอื่น ๆ ได้ การสร้างงานดิจิทัลมีประโยชน์มากมายและมีโอกาสมากมายสำหรับผู้ที่ต้องการหารายได้ออนไลน์ และต่อไปนี้คือช่องทางและวิธียอดนิยมในการสร้างงานดิจิทัลเพื่อออกขายบนออนไลน์ โดยมีแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากมายไม่ว่าคุณจะรับบทเป็นฟรีแลนซ์หรือว่าจะอยากขายของบนเว็บ E-commerce วันนี้ผมได้หยิบยกเอาตัวอย่างทั้ง 5 แพลตฟอร์มมาแนะนำให้ทำความรู้จักกัน จะมีแพลตฟอร์มใดบ้างนั้น ไปดูกันเลยครับ

  1. Redbubble 

Redbubble เป็นตลาดออนไลน์ที่เปิดโอกาสให้ศิลปินและนักออกแบบอิสระขายผลงานของตนในรูปแบบของสินค้าที่จับต้องได้ เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของตกแต่งบ้าน และเครื่องเขียน แพลตฟอร์มดังกล่าวมอบวิธีง่าย ๆ สำหรับผู้สร้างในการอัปโหลดงานออกแบบของตนและสั่งพิมพ์บนผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ซึ่งจะขายให้กับลูกค้าโดยตรง ซึ่งข้อเสนอของ Redbubble ก็มีตั้งแต่เสื้อยืด เสื้อมีฮู้ด เลกกิ้ง งานศิลปะติดผนัง เคสโทรศัพท์ แก้วน้ำ สติกเกอร์ กระเป๋าโท้ท และอื่น ๆ อีกมากมาย แพลตฟอร์มนี้ช่วยให้ครีเอเตอร์สร้างและจัดการร้านค้าของตนเอง และกำหนดราคาของตนเองได้ Redbubble ดูแลการผลิต การเติมเต็มสต็อกสินค้า และการบริการลูกค้า ดังนั้นศิลปินจึงสามารถมุ่งเน้นไปที่การสร้างสรรค์และส่งเสริมผลงานของตนเอง

แพลตฟอร์มนี้ยังสร้าง community สำหรับผู้ใช้งาน ซึ่งลูกค้าสามารถโต้ตอบกับศิลปินและนักออกแบบ เขียนรีวิว และค้นพบศิลปินและการออกแบบใหม่ ๆ Redbubble ยังจัดโปรโมชันและแคมเปญเป็นประจำเพื่อช่วยศิลปินโปรโมตผลงานและเพิ่มการมองเห็นบนแพลตฟอร์ม Redbubble เป็นแพลตฟอร์มที่ยอดเยี่ยมสำหรับศิลปิน นักออกแบบ และนักสร้างสรรค์อิสระในการขายผลงานและเข้าถึงผู้ชมที่กว้างขึ้น เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้งานง่ายและมีผลิตภัณฑ์ให้เลือกมากมายอีกด้วย

  2. Canva 

Canva เป็นแพลตฟอร์มการออกแบบกราฟิกที่ช่วยให้ผู้ใช้สร้างเนื้อหาภาพ เช่น โปสเตอร์ โบรชัวร์ โพสต์บนโซเชียลมีเดีย และสื่อทางการตลาดอื่น ๆ พร้อมใช้งานบนเว็บและอุปกรณ์เคลื่อนที่และมี Interface แบบลากวางที่ทำให้ใช้งานง่ายแม้ว่าจะเป็นผู้ที่ไม่มีประสบการณ์ด้านการออกแบบก็สามารถใช้งานได้ นอกจากนี้ Canva ยังมีเทมเพลต กราฟิก และองค์ประกอบการออกแบบอื่น ๆ มากมายที่สามารถใช้สร้างงานออกแบบที่ดูเป็นมืออาชีพได้ นอกจากนี้ Canva ยังเสนอแผนแบบชำระเงินสำหรับธุรกิจและบุคคลที่ให้การเข้าถึงคุณสมบัติและองค์ประกอบการออกแบบเพิ่มเติม แพลตฟอร์มของ Canva ถูกใช้อย่างกว้างขวางโดยธุรกิจ ผู้ประกอบการ นักการตลาด นักการศึกษา และบุคคลทั่วไป เพื่อสร้างเนื้อหาภาพสำหรับวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ตั้งแต่โพสต์บนโซเชียลมีเดียไปจนถึงงานนำเสนอ และแม้แต่ปกหนังสือ แพลตฟอร์มนี้ยังใช้โดยองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร โรงเรียน และองค์กรอื่น ๆ หลายแห่ง เพื่อสร้างเนื้อหาภาพตามวัตถุประสงค์ของตนเองได้ด้วย 

ตลาดกลางของ Canva เป็นแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้สามารถอัปโหลดและขายองค์ประกอบการออกแบบของตนเอง เช่น เทมเพลตต่าง ๆ กราฟิก และรูปภาพ ผู้ใช้ Canva รายอื่นสามารถใช้สิ่งเหล่านี้เพื่อสร้างงานออกแบบของตนเองได้ เมื่อขายงานออกแบบของคุณบน Canva คุณจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดในการให้บริการของ Canva ซึ่งรวมถึงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับลิขสิทธิ์ เครื่องหมายการค้า และสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาอื่น ๆ สิ่งสำคัญคือต้องมีสิทธิ์ตามกฎหมายในการใช้ภาพหรือองค์ประกอบใด ๆ ที่คุณขาย และยังต้องให้ใบอนุญาตที่เหมาะสมสำหรับการใช้งานของลูกค้าด้วย

  3. Creative Fabrica 

ในยุคดิจิทัลในปัจจุบัน มีโอกาสมากมายในการสร้างรายได้ออนไลน์ แพลตฟอร์มหนึ่งที่กลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมสำหรับนักออกแบบและครีเอทีฟคือ Creative Fabrica โดยที่นี่คุณจะสามารถขายทรัพยากรการออกแบบดิจิทัลของคุณ เช่น ฟอนต์ กราฟิกต่าง ๆ ทุกรูปแบบ ให้กับผู้ชมทั่วโลก ทั้งไฟล์ตระกูลรูปภาพ PNG หรือ SVG ไม่ว่าคุณจะเป็นนักออกแบบอิสระหรือเพียงแค่มองหาวิธีสร้างรายได้จากงานอดิเรก Creative Fabrica คือแพลตฟอร์มที่สามารถเปลี่ยนความหลงใหลของคุณนักออกแบบให้เป็นผลกำไรได้

Creative Fabrica ช่วยให้นักออกแบบและนักสร้างสรรค์สามารถซื้อและดาวน์โหลดทรัพยากรการออกแบบดิจิทัลเพื่อใช้ในงานของตนเอง เช่น การสร้างโลโก้ โปสเตอร์ เว็บไซต์ และโครงการสร้างสรรค์อื่น ๆ แพลตฟอร์มนี้นำเสนอแหล่งข้อมูลการออกแบบที่หลากหลาย รวมถึงผลิตภัณฑ์พิเศษและพรีเมียม และมีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่ายซึ่งทำให้ง่ายต่อการค้นหาและเรียกดูองค์ประกอบที่คุณต้องการ นอกจากนี้ยังมีบริการสมัครสมาชิกที่ผู้ใช้สามารถเข้าถึงการออกแบบหลายพันรายการในแต่ละเดือน เป้าหมายของ Creative Fabrica คือการจัดหาแหล่งข้อมูลการออกแบบดิจิทัลทั้งหมดแบบครบวงจร ทำให้นักออกแบบและผู้สร้างสามารถค้นหาองค์ประกอบที่ต้องการเพื่อทำให้งานมีชีวิตขึ้นมาได้ง่ายขึ้น

  4. Amazon Kindle Direct Publishing (KDP) 

ขายหนังสือรูปแบบดิจิทัลบน Amazon Kindle Direct Publishing หรือ KDP ซึ่ง Amazon Kindle Direct Publishing (KDP) เป็นแพลตฟอร์มของ Amazon สำหรับการเผยแพร่ e-book ด้วยตนเอง ด้วย Kindle Direct Publishing ซึ่งผู้แต่งและผู้จัดพิมพ์สามารถเผยแพร่และขาย e-book ของตนเองโดยตรงไปยังฐานลูกค้าของ Amazon ผ่าน Kindle Store แพลตฟอร์มนี้ให้เครื่องมือแก่ผู้เขียนในการอัปโหลดและจัดรูปแบบเนื้อหา จัดการสิทธิ์และค่าลิขสิทธิ์ และรับเงินสำหรับการขาย KDP โดยขจัดเรื่องความจำเป็นของสำนักพิมพ์แบบดั้งเดิมที่เคยมี ทำให้ผู้เขียนสามารถเผยแพร่งานของตนไปทั่วโลกได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องมีสำนักพิมพ์ใด ๆ มารองรับงานเขียน

แพลตฟอร์มนี้ใช้งานได้ฟรี และผู้แต่งจะได้รับเปอร์เซ็นต์ของราคาขายสำหรับหนังสือแต่ละเล่มที่ขาย KDP ทำให้นักเขียนจำนวนมากเข้าถึงการเผยแพร่ด้วยตนเองได้ ทำให้พวกเขามีแพลตฟอร์มในการเข้าถึงผู้ชมทั่วโลกและสร้างรายได้จากผลงานของพวกเขา สามารถขายสมุดหนังสือได้ทุกแนวทั้ง Notebook, Guest book, Colouring book หรือแม้แต่ Planner ทุกแนวที่ตลาดปัจจุบันให้ความสนใจ

  5. Amazon merch on demand

Amazon merch on demand หรือชื่อเดิม Merch by Amazon เป็นบริการ print-on-demand หรือการสั่งพิมพ์ตามสั่งจาก Amazon ซึ่งช่วยให้บุคคลและธุรกิจสามารถสร้างและขายสินค้าแบบกำหนดเอง เช่น เสื้อยืด เสื้อฮู้ด และเคสโทรศัพท์ โดยไม่ต้องมีสินค้าคงคลัง Amazon Merch on Demand เป็นบริการพิมพ์และเติมสินค้าอัตโนมัติของแพลตฟอร์ม และไม่จำเป็นต้องพิมพ์และจัดส่งด้วยตนเอง Amazon Merch on Demand ลูกค้าสามารถอัปโหลดการออกแบบ เลือกสินค้าที่ต้องการขาย แล้ว Amazon จะจัดการเรื่องการพิมพ์ การจัดส่ง และการบริการลูกค้าให้เอง 

แพลตฟอร์มนี้จ่ายค่าลิขสิทธิ์ให้กับครีเอเตอร์สำหรับสินค้าแต่ละชิ้นที่ขายได้ เป็นวิธีที่สะดวกและให้ผลกำไรสำหรับนักออกแบบ ศิลปิน และยังเป็นธุรกิจในการสร้างรายได้จากผลงานที่เข้าถึงผู้ชมทั่วโลก Amazon Merch on Demand เป็นโอกาสอันยอดเยี่ยมสำหรับทุกคนที่ต้องการขายผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์และสร้างสรรค์โดยไม่ต้องวุ่นวายกับการจัดการสินค้าคงคลังและการรับมือกับลูกค้า เพราะเรื่องการวางขาย Amazon จะเป็นคนจัดการให้เอง

นั่นแหละครับ คือ 5 ช่องทางที่ได้นำมาแนะนำบอกต่อกับทุกคนในวันนี้ ต้องบอกว่าการสร้างรายได้ออนไลน์มีความสำคัญมากขึ้นในยุคดิจิทัลในปัจจุบัน ด้วยการเพิ่มขึ้นของเทคโนโลยีและอินเทอร์เน็ต ทำให้มีแพลตฟอร์มและโอกาสมากมายสำหรับบุคคลและธุรกิจในการสร้างรายได้ออนไลน์ ซึ่งช่วยให้สามารถสร้างรายได้จากทุกที่ที่มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของอีคอมเมิร์ซและความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับสินค้าและบริการดิจิทัลได้สร้างตลาดขนาดใหญ่สำหรับบุคคลและธุรกิจที่จะเข้าถึง ทำให้ง่ายต่อการเปลี่ยนทักษะและความคิดสร้างสรรค์ของทุกคนไปสู่การลงทุนที่ทำกำไร