ทำความรู้จักเครื่องดูดฝุ่นจากเครื่องปั๊มลมสู่หุ่นยนต์อัจฉริยะ

งานบ้านเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันที่มนุษย์ทุกคนไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ปัจจุบันเรามีเทคโนโลยีที่พัฒนาเพื่อมาเป็นส่วนช่วยในการทำงานบ้านอยู่มากมาก อย่างเช่น เครื่องดูดฝุ่นขนาดเล็กที่ได้เปลี่ยนการทำความสะอาดบ้านของเราไปในทางที่ดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ ใครจะไปเชื่อว่าเจ้าเครื่องดูดฝุ่นได้ถูกพัฒนาขึ้นมากกว่า 200 ปีมาแล้ว นับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1860 ก่อนหน้าที่เครื่องดูดฝุ่นจะถูกพัฒนาขึ้น มนุษย์เครื่องมือพื้นฐานหลายอย่างที่ใช้ทำความสะอาดและยังคงคุ้นเคยกับเราในทุกวันนี้ ตั้งแต่ผ้าไปจนถึงไม้กวาด แปรง และถัง และโซลูชันทางเทคโนโลยีสำหรับฝุ่นและสิ่งสกปรกในครัวเรือนอย่างเครื่องดูดฝุ่น ก็ได้ถือกำเนิดขึ้นและเติมเต็มความหมายของคำว่า “สะอาด” ว่าหมายถึงอะไรจริง ๆ 

The first hand-pumped vacumm cleaner

เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 1869 Ives McGaffey นักประดิษฐ์ชาวชิคาโกได้จดสิทธิบัตร "sweeping machine." แม้ว่านี่จะเป็นสิทธิบัตรแรกสำหรับอุปกรณ์ที่ทำความสะอาดพรม แต่ก็ไม่ใช่เครื่องดูดฝุ่นแบบใช้มอเตอร์ McGaffey เรียกเครื่องจักรของเขาว่า “Whirlwind” เครื่องไม้และผ้าใบ ‘a wood and canvas contraption’ ในปัจจุบันนี้เจ้าเครื่องนี้เป็นที่รู้จักในฐานะเครื่องดูดฝุ่นแบบปั๊มมือเครื่องแรกในสหรัฐอเมริกา

THE INVENTION OF THE VACUUM CLEANER

ในปี 1901 ผู้คนในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษได้เห็นฉากที่น่าตื่นตาตื่นใจบนถนนในกรุงลอนดอน เมื่อวิศวกรที่มีชื่อว่า “Hubert Cecil Booth” กำลังกลิ้งเครื่องดูดฝุ่นตัวใหม่ลงบนถนนใจกลางเมือง ซึ่งนั่นเป็นจุดเริ่มต้นของการปฏิวัติที่มีความรวดเร็วว่าผู้คนส่วนใหญ่ควรทำความสะอาดบ้านของเราอย่างไร

วิศวกรชาวอังกฤษท่านนี้ได้คิดค้นแนวคิดสำหรับเครื่องดูดฝุ่นในปี 1901 หลังจากชมการทำความสะอาดตู้รถไฟโดยใช้อากาศอัดเพื่อเป่าฝุ่นและเศษขยะออกไป

สิ่งที่ Hubert Cecil Booth ได้คิดต่อหลังจากนั้น คือการสร้างเครื่องจักรที่ดูดสิ่งสกปรกแทนที่จะเป่าออกไป เครื่องแรกของเขามีขนาดใหญ่และมีราคาแพง ดังนั้นในตอนแรกเขาจึงเสนอบริการทำความสะอาดแบบดูดฝุ่นเป็นบริการเคลื่อนที่ โดยทั่วไปแล้วจะใช้รถม้า โดยเครื่องจักรจะจอดอยู่นอกบ้าน และท่อยาวถูกป้อนเข้าทางหน้าต่างของบ้านที่ไปทำความสะอาด 

HOOVERING FOR THE MASSES

สมาคมเครื่องดูดฝุ่นของอังกฤษที่มีคำว่า 'Hoover' โดยมาจากกลยุทธ์การโฆษณาและการครอบงำของบริษัทอเมริกันในตลาดสินค้าอังกฤษ ที่มีเจมส์ สแปงเลอร์ (James Spangler) นักประดิษฐ์ผู้ป่วยเป็นโรคหอบหืดชาวอเมริกัน ได้ขายไอเดียของเขาที่เรียกกันว่าเป็นน้ำยาทำความสะอาดคล้ายไม้กวาดไฟฟ้า (electric broomstick-like cleaner) ที่มาพร้อมกับแผ่นกรองผ้าและถุงเก็บฝุ่นที่ด้ามยาว ให้กับวิลเลียม ฮูเวอร์ (William Hoover) ในปี 1908 

สิ่งประดิษฐ์ของเขา (เจมส์ สแปงเลอร์) ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าเป็นเครื่องดูดฝุ่นในบ้านเครื่องแรกที่สามารถนำไปใช้ได้จริง โดยต่อมาได้สร้างโรงงานขนาดใหญ่ในอังกฤษที่ใช้ชื่อว่าบริษัท Hoover Company ซึ่งสร้างขึ้นที่ Perivale ใกล้ Wembley ในช่วงทศวรรษที่ 1930 และได้ผลิตเครื่องจักรที่ดูชาญฉลาดซึ่งดึงดูดใจผู้บริโภคยุคใหม่ในขณะนั้นอย่างมาก 

แต่การทำความสะอาดด้วยเครื่องดูดฝุ่นยังไม่ค่อยได้รับความสนใจจากคนทั่วไป ณ เวลานั้นเนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูงในการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าใหม่ ประกอบกับไม่มีการจัดหาพลังงานไฟฟ้า คนส่วนใหญ่ยังคงทำความสะอาดพรม และผ้าม่านของพวกเขาในรูปแบบเทคโนโลยีแบบเดิม ๆ จนกระทั่งหลังสงครามโลกครั้งที่สอง

THE FUTURE OF THE VACUUM CLEANER

ในปี 1990 สาม roboticists Rodney Brooks, Colin Angle และ Helen Greiner ได้ก่อตั้ง iRobot ขึ้น และได้เปิดตัว Roombas ในปี 2002 มีชุดเซ็นเซอร์ที่ช่วยให้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นสามารถสำรวจพื้นที่ของบ้านและทำความสะอาดได้ ตัวอย่างเช่น เซ็นเซอร์ของ Roombas สามารถตรวจจับสิ่งกีดขวาง ตรวจจับจุดสกปรกบนพื้น และสัมผัสการตกที่สูงชันเพื่อป้องกันไม่ให้ตกบันไดได้ 

แต่หุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวแรกที่เกิดขึ้นและเปิดตัวสู่สาธารณชนให้ได้รู้จักกันนั่นก็คือ Electrolux Trilobite ที่เป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่ผลิตโดย บริษัทเทคโนโลยีจากประเทศสวีเดนอย่าง Electrolux โดยตั้งชื่อเจ้าหุ่นยนต์ตัวนี้มาจากสัตว์ขาปล้องที่สูญพันธุ์ไปแล้ว หุ่นยนต์ดูดฝุ่นตัวนี้ถูกพบเห็นครั้งแรกในรายการโทรทัศน์ของ BBC และ Tomorrow's World ในเดือนพฤษภาคมปี 1996 ซึ่งถูกสาธิตโดย Philippa Forrester แต่ประกาศจริงโดยการแถลงข่าวในสหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ปี 1997 เป็นเครื่องดูดฝุ่นอัตโนมัติเครื่องแรกของโลกที่มีจำหน่ายทั่วไป โดยเปิดตัวเป็นผลิตภัณฑ์รุ่นแรกคือ รุ่น ZA1 ในปี 2001 และได้รับการปรับปรุงแก้ไขในเวร์ชันที่ดีขึ้นอย่างรุ่น ZA2 ในปี 2003

การนำเครื่องใช้ในครัวเรือนที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้ามาใช้ตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ทำให้เกิดวิสัยทัศน์ของอนาคตที่สนุกสนานสำหรับเจ้าของบ้านและการลดความน่าเบื่อหน่ายสำหรับคนรับใช้ในบ้าน ซึ่งเครื่องทำความสะอาดพรมแบบใช้ไฟฟ้า เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้า เตารีดไฟฟ้าหรือแก๊ส และเครื่องล้างจาน ทั้งหมดค่อย ๆ ปรากฏขึ้น และจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันเทคโนโลยีทั้งหมดถูกรวมกับเทคโนโลยีแก่งความก้าวหน้าในโลกอนาคตอย่างเทคโนโลยีอัจฉริยะต่าง ๆ รวมถึงหุ่นยนต์ แต่ถึงแม้เวลาและอุปกรณ์ที่ช่วยประหยัดแรงงานเหล่านี้ มนุษย์เราก็ยังคงใช้เวลาทำงานบ้าน ทำกิจวัตรในครัวเรือนเท่า ๆ กันกับเมื่อ 100 ปีก่อนอยู่ อาจจะด้วยปัจจัยต่าง ๆ อย่างมาตรฐานด้านสุขอนามัยที่สูงขึ้น ท้ายที่สุดแล้วจะทำให้ Rest and Relaxation ของมนุษย์ในอนาคตเป็นอย่างไร เวลาเท่านั้นที่จะเราได้บอก (source: eng SCIENCE MUSEUM)