×

START A PROJECT

We are here to build a high-quality extension for brands to serve your consumers.

    By HOCCO - 18 ธันวาคม 2024

    Web Development คืออะไร ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จขององค์กร

    ในยุคที่ธุรกิจต่าง ๆ ให้ความสำคัญกับการสร้างตัวตนและทำการตลาดบนโลกออนไลน์ เว็บไซต์จึงกลายมาเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ขององค์กรและธุรกิจได้อย่างสะดวก ทั้งยังเป็นช่องทางในการสั่งซื้อสินค้าหรือติดต่อใช้บริการอีกด้วย ซึ่งทำให้เว็บไซต์ต้องตอบโจทย์การใช้งานได้มากที่สุด ดังนั้นการพัฒนาเว็บไซต์ (Web Development) ให้มีประสิทธิภาพจึงมีความสำคัญนั่นเอง บทความนี้ จะคุณไปรู้จักกับ Web Development คืออะไร สำคัญอย่างไรต่อธุรกิจของคุณ และขั้นตอนการทำ Web Development พร้อมทั้ง 7 โปรแกรมน่าสนใจที่ใช้ทำ Web Development จะมีอะไรบ้าง ไปดูกันได้เลย

    Web Development คือใคร ?

    Web Development คือ กระบวนการออกแบบและพัฒนาเว็บไซต์ โดยใช้ภาษาเขียนโปรแกรมและเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อสร้างและพัฒนาเว็บไซต์ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยจะมีการเริ่มต้นกระบวนการตั้งแต่การวางแผน ออกแบบ พัฒนาเว็บไซต์ การเปิดใช้งานเว็บไซต์ การดูแลระบบ รวมถึงการอัปเดตและแก้ไขข้อผิดพลาดต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน โดยมีนักพัฒนาเว็บไซต์ (Web Developer) คอยดูแลและจัดการกับกระบวนการเหล่านั้น นั่นเอง

    ทำไม Web Development จึงสำคัญต่อองค์กร ?

    สำหรับธุรกิจหรือแบรนด์ในยุคดิจิทัลแบบนี้ สิ่งที่ขาดไม่ได้เลยคือเว็บไซต์ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการทำให้ลูกค้ารู้จัก จดจำแบรนด์ และเลือกซื้อสินค้าและบริการของคุณ ดังนั้นการมี Web Development ที่ดี จึงมีความสำคัญต่อองค์กรของคุณ เช่น

    ●ทำให้เว็บไซต์มีความน่าเชื่อถือ และเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือว่าใช้บริการได้ง่ายขึ้น

    ●ทำให้เว็บไซต์ใช้งานได้ง่าย สะดวก และรวดเร็ว ลูกค้าสามารถเลือกชม เลือกซื้อ หรือดูข้อมูลสินค้าและบริการได้อย่างสะดวก อีกทั้งยังช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานได้อีกด้วย

    ●รองรับการทำ SEO (Search Engine Optimization) เพราะ SEO คือส่วนสำคัญของการตลาดออนไลน์ นำมาซึ่งผลลัพธ์สุดท้ายที่ช่วยเพิ่มยอดผู้เข้าชมให้แก่เว็บไซต์ สร้างโอกาสในการขายสินค้าและบริการได้เพิ่มยิ่งขึ้น

    ●ระบบหน้าบ้าน และ หลังบ้านของเว็บไซต์ที่ดี ทำให้สามารถรวบรวมข้อมูลของผู้เข้าชมเว็บไซต์ เพื่อนำไปวิเคราะห์และพัฒนาเว็บไซต์ให้ดีขึ้น โดยการปรับปรุงกลยุทธ์ทางการตลาด ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างยอดขายให้แก่ธุรกิจได้ในที่สุด

    Hocco มีความเชี่ยวชาญในบริการทำ Web Development เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้ธุรกิจของคุณ และเพิ่มโอกาสในการขายที่มากขึ้น เรามีทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญด้าน Software Development, ซอฟต์แวร์ Website หรือ Application อย่างมีประสิทธิภาพ หากสนใจสามารถติดต่อได้ที่ E-mail : hello@hocco.co

    ประเภทของ Web Development  

    Web Development สามารถแบ่งได้ 3 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

    1. Front-End Development

    Front End Development คือการพัฒนาและดูแลเว็บไซต์ในส่วนของหน้าบ้าน โดยจะเน้นไปที่การสร้างสรรค์ส่วนของเว็บไซต์ที่ผู้ใช้ได้เห็นและใช้งาน (UI) ไม่ว่าจะเป็นการแสดงผลข้อมูล การจัดเรียงเนื้อหา การจำแนกเมนู ฯลฯ โดยจะใช้ภาษา HTML, CSS, และ JavaScript เพื่อให้เว็บไซต์ดูสวยงามและใช้งานง่าย

    2. Back-End Development

    ในส่วนของ Back End Development จะมุ่งตรงไปที่ข้อมูลหลังบ้าน เช่น การจัดการฐานข้อมูล, การประมวลผลข้อมูล, และการเขียนโค้ดที่ทำให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างที่ต้องการ มักจะใช้ภาษา Python, Ruby, และ PHP เป็นหลัก

    3. Full-Stack Development

    คือการรวมทั้ง 2 ประเภท (ทั้ง Front End และ Back End) เข้าด้วยกัน พูดง่าย ๆ ก็คือสามารถทำได้ทั้งคู่ โดย Full-Stack Developer จะมีความเชี่ยวชาญทั้งในส่วนของ Front End และ Back End ทำให้มีความยืดหยุ่นและสามารถทำงานได้หลากหลายหน้าที่ และมีความเชี่ยวชาญทุกภาษาโปรแกรมที่ได้กล่าวมาก่อนหน้านี้

    6 ขั้นตอนทำ Web Development

    การพัฒนาเว็บไซต์ (Web Development) ประกอบด้วยขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้การสร้างเว็บไซต์มีประสิทธิภาพและเป็นระบบมากขึ้น โดยมีขั้นตอนการทำ Web Development ดังนี้

     1. วางแผนการทำงาน (Planing)

    การวางแผนการทำงาน คือ การกำหนดความต้องการของโปรเจกต์ให้ชัดเจน เช่น เว็บไซต์สำหรับขายสินค้า บล็อก หรือองค์กร รวมถึงทำการวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย ร่างแผนผังเว็บไซต์ ระบุฟีเจอร์หลักของเว็บไซต์ กรอบเวลา และงบประมาณ

     2. การออกแบบเว็บไซต์ (Design)

    เป็นการออกแบบ UI/UX เพื่อสร้างอินเทอร์เฟซและประสบการณ์การในการใช้งานที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้

    และมีศิลปะในการเลือกใช้โทนสี รูปภาพ และการจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับแบรนด์

     3. การพัฒนา (Development)

    ในขั้นตอนนี้ คือการนำข้อมูลจากขั้นตอนก่อนหน้ามารวมกันเพื่อสร้างเว็บไซต์ โดยใช้เครื่องมือช่วยพัฒนาเว็บไซต์ อย่างเครื่องมือสร้างและจัดการเนื้อหาบนเว็บไซต์ (CMS) หรือ Framework ที่ช่วยให้การทำ Web Development สะดวกมากขึ้นและในระหว่างเขียนโค้ดพัฒนาเว็บไซต์

     4. การทดสอบ (Testing)

    ขั้นตอนถัดมา คือการทดสอบและปรับแต่งเว็บไซต์ เพื่อให้มั่นใจว่าเว็บไซต์สามารถแสดงผลได้ดี ซึ่งจะใช้การทดสอบแบบออฟไลน์ เพื่อทดสอบความเร็ว ขนาดตัวอักษร ขนาดภาพ และสีว่าเหมาะสมและเข้ากับการใช้งานบนเบราว์เซอร์ต่าง ๆหรือไม่

     5. การปรับปรุงและเผยแพร่ (Deployment)

    ทำการอัปโหลดเว็บไซต์ไปยังเซิร์ฟเวอร์หรือโฮสติ้ง เช่น AWS, Netlify หรือ Vercel เชื่อมชื่อโดเมนกับเว็บไซต์ และตรวจสอบหลังเผยแพร่ว่าทุกอย่างทำงานปกติ เพื่อให้ผู้คนทั่วไปได้รู้จักและเข้าถึงข้อมูลของเราได้

     6. การดูแลรักษา (Maintenance)

    เพื่อให้เว็บไซต์ทำงานได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ เมื่อพบข้อผิดพลาด ก็ควรจะแก้ไขและปรับปรุงให้ดีขึ้นเสมอ ด้วยการอัปเดตเนื้อหาภายในเว็บให้เป็นปัจจุบัน ปรับปรุงให้ทันสมัย และวิเคราะห์พฤติกรรมใช้งานของผู้ใช้ด้วยเครื่องมือทางการตลาด จากนั้นนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนาเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้นต่อไปเรื่อย ๆ

    7 โปรแกรมที่นิยมใช้ทำ Web Development 

    1. Visual Studio Code (VS Code) เป็นโปรแกรมยอดฮิตสำหรับการเขียนโค้ดเพราะความเร็ว, รองรับหลายภาษา และมี Extensions มากมาย เช่น Live Server, Prettier, และ Debugger

    2. Sublime Text เป็นโปรแกรมที่เรียบง่าย, เบา, และเร็ว เหมาะสำหรับการแก้ไขไฟล์ HTML, CSS, และ JavaScript

    3. Figma มักนิยมใช้ในการออกแบบ UI/UX สำหรับเว็บไซต์ก่อนการพัฒนา เช่น การออกแบบ Prototype, การทำงานร่วมกันแบบ Real-Time และการ Export CSS Code

    4. GitHub ใช้ในการจัดการโค้ดในทีมและติดตามเวอร์ชันของโค้ด มีฟีเจอร์เด่น เช่น Integration กับ CI/CD, การเก็บโค้ดแบบ Public/Private, และการทำ Pull Request

    5. Bootstrap ใช้สร้างเว็บไซต์แบบ Responsive ด้วย HTML, CSS, และ JavaScript ได้อย่างรวดเร็ว ด้วยชุด Components สำเร็จรูป เช่น Navbars, Forms, และ Buttons

    6. Node.js ใช้พัฒนาส่วน Back-End ด้วย JavaScript รองรับความเร็วสูง, รองรับ Non-blocking I/O และมี Ecosystem ขนาดใหญ่ (ผ่าน npm)

    7. Postman ใช้สำหรับทดสอบ API ที่เชื่อมระหว่าง Front-End และ Back-End และรองรับการสร้าง Request, Collection, และ Automation Test

    ขับเคลื่อนธุรกิจออนไลน์ด้วยเว็บไซต์ที่มีคุณภาพจาก Hocco

    Web Development หรือผู้ที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของการสร้างหรือการพัฒนาเว็บไซต์ที่ขาดไม่ได้ ถ้าหากคุณทำธุรกิจหรือมีแบรนด์เป็นของตัวเองแล้วอยากมีเว็บไซต์ดี ๆ สักเว็บให้แบรนด์ของคุณก็ควรต้องมีการทำ Web Development อย่างแน่นอน ซึ่งแบรนด์ในยุคโลกออนไลน์แบบนี้การมีเว็บไซต์ดี ๆ นั้นสำคัญและส่งผลต่อธุรกิจหลายอย่างเลยทีเดียว ดังนั้น การทำ Web Development จึงเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์ที่ดีอีกด้วย

    สำหรับผู้ที่สนใจต้องการพัฒนาเว็บไซต์ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจและองค์กรของคุณ Hocco เรามีทีมนักพัฒนาเว็บไซต์ที่มากประสบการณ์จากทุกธุรกิจ พร้อมคอยให้คำปรึกษา นำเสนอ IT Solution ที่เหมาะสมกับองค์กรของคุณ นอกจากนี้เรายังมีบริการ รับทำเว็บไซต์ รับเขียนโปรแกรม และพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ ที่จะช่วยเหลือธุรกิจของคุณให้สามารถทำยอดขายและเพิ่มโอกาสทางธุรกิจมากยิ่งขึ้น สนใจติดต่อได้ที่ E-mail : hello@hocco.co หรือโทร. 064-6166426, 084-7332417

    MORE ARTICLES

    0 Comment