ไม่ต้องมีพื้นฐานก็สร้าง Dashboard ได้!

พอพูดถึง Dashboard หลายคนคงมีภาพในหัวมากมายจากประสบการณ์ที่เคยพบเจอมา แต่ภาพในหัวเหล่านั้นจะมีใครที่สามารถรู้ว่าการแปลง Data มากมายออกมานำเสนอและสรุปในรูปแบบของ Dashboard นั้น ถูกสร้างสรรค์มาจากที่ไหนได้บ้าง

วันนี้ผมจะพามาทำความรู้จักกับเครื่องมือที่จะพาคุณก้าวไปสู่การสร้าง Dashboard ที่จะเพิ่มคุณค่าในงานของทุกคน โดยที่อาจจะไม่ต้องพื้นฐานการสร้าง Dashboard ก็สามารถใช้เครื่องมือเหล่านี้ได้ง่าย ๆ

3 เครื่องมือ ที่ใช้งานได้สะดวกรวดเร็ว นั่นก็คือ

1. Google Data Studio

2. Tableau

3. Power BI

มาเริ่มกันที่ตัวแรก Google Data Studio 

เป็นเครื่องมือออนไลน์สำหรับการแปลงข้อมูลเป็นรายงานและแดชบอร์ดที่ปรับแต่งได้จาก Google สามารถใช้งานได้ฟรีสำหรับบุคคลทั่วไป เพียงแค่ใช้บัญชี Google ของคุณเท่านั้น อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อเพื่อดึงข้อมูลกับ Google Conectors ต่าง ๆ ได้ไม่ว่าจะเป็น Google Sheet, Google Analytics, Youtube Analytics และ Partner Connectors ต่าง ๆ อีกมากมาย

เราสามารถตกแต่งข้อมูล โดยเลือกรูปแบบที่เหมาะสมกับข้อมูลที่มี ซึ่ง Google Data Studio เองก็มีรูปแบบให้เลือกการจัดวางได้มากมาย สามารถปรับแต่งธีมและเลย์เอาต์เพื่อให้เหมาะสมกับการนำเสนอได้จบบนเครื่องมือนี้ โดยไม่ต้องดึงออกไปวางบนโปรแกรมนำเสนออื่นเลย

ไปต่อกันที่ตัวที่ 2 นั่นก็คือ Tableau (ทาโบล) 

มาใน concept ที่ว่า “Find easy answers to hard questions” หรือ “ค้นหาคำตอบง่าย ๆ สำหรับคำถามที่ยาก” ต้องบอกว่าหลากหลายองค์กรไม่ว่าจะน้อยใหญ่เลือกใช้ Tableau กันไม่น้อย เพราะค่อนข้างที่จะเป็นแพลตฟอร์มที่มีการวิเคราะห์ที่กว้างและลึกที่สุดในโลก สามารถปรับใช้ในระบบคลาวด์และยังสามารถวิเคราะห์หข้อมูลเชิงลึกที่ซ่อนอยู่ในข้อมูลของเราได้ Tableau สามารถรองรับ Data Source ได้หลายรูปแบบสามารถนำเข้าข้อมูลจากหลายแหล่งข้อมูลและนำมาเชื่อมต่อกับข้อมูลทั้งหมดด้วยความสามารถ AI/ML ที่ผสานรวมอย่างสมบูรณ์และประมวลผลเล่าเรื่องด้วยภาพเพื่อจัดทำรายงานได้

ความพิเศษของ Tableau ที่นอกเหนือจากที่กล่าวมาแล้ว ตัว Tableau ยังรวบรวม Dashboard ที่ Publish ไว้อย่างมากมายเพื่อให้เราสามามารถไปเลือกดูและดาวน์โหลดไปใช้งานตามที่ผู้เผยแพร่กำหนดไว้ได้ซึ่งเป็นข้อมูลที่อัปเดตอยู่ตลอด เหมาะกับ Business User ที่ไม่จำเป็นต้องมีความรู้อย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับระบบ IT ก็สามารถเข้าใจได้ง่าย ที่สำคัญคือหากเราต้องการเผยแพร่งานของเรา เพื่อจะให้ผู้คนเข้ามาดูและดาวน์โหลดไปใช้ได้ก็สามารถที่จะทำได้เช่นเดียวกัน

และตัวที่ 3 ตัวสุดท้าย นั่นก็คือ Power BI จาก Microsoft

Power BI เป็นแพลตฟอร์มที่ใช้เชื่อมต่อและแสดงภาพข้อมูลที่ใช้งานง่ายและช่วยให้ได้รับข้อมูลเชิงลึกที่ละเอียดและเป็นประโยชน์ยิ่งขึ้น เป็นตัวที่จะมาเชื่อมช่องว่างระหว่างข้อมูลกับการตัดสินใจ สร้างประสบการณ์ข้อมูลที่น่าทึ่ง สามารถเชื่อมต่อสร้างแบบจำลองและสามารถแสดงภาพข้อมูลได้อย่างง่ายดาย สามารถสร้างรายงานซึ่งยังปรับให้เป็นส่วนตัวด้วยได้ด้วย KPI อีกด้วย

ตัว Power BI นี้ยังเหมาะสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ ทำให้เราสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากบิ๊กดาต้าในขณะที่ยังคงรักษาความถูกต้อง ความสม่ำเสมอ และความปลอดภัยของข้อมูล เมื่อมีข้อมูลใหม่เข้ามา ก็จะมีการ อัปเดตการวิเคราะห์ และการแสดงผลทันทีและที่สะดวกยิ่งกว่าคือสามารถนำผลการวิเคราะห์ไปนำเสนอเป็น Data Visualization ซึ่งมีการทำงานแบบอัตโนมัติได้ด้วย ซึ่งการทำ Data Visualization นั้นสำคัญอย่างไร สามารถย้อนกลับไปอ่านได้จากบทความที่แล้ว Data Visualization คืออะไร

ในส่วนของความพิเศษของ Power BI ยังมีอยู่อีกมากมาย หากคุณเป็นลูกค้าของแพลตฟอร์มระดับ Pro และ Premium คุณจะสามารถ Generate Report ขึ้นสู่ Power BI Server เพื่อให้ผู้อื่นสามารถเข้าถึง Report ของเราได้เลยครับ เราสามารถจัดการการเปิดเผยข้อมูลของเราได้โดยการกำหนดคนที่สามารถเข้าถึงได้ว่าจะเป็นแค่คนภายในองค์กรเรา หรือบุคคลภายนอกองค์กรจะสามารถดู Report หรือ Dashboard ของเราเหล่านั้นได้ ซึ่งการแชร์ข้อมูลที่จะสามารถทำได้ก็คือ Publish to Web โดยนำงานของเราเองขึ้นสู่ Power BI Service โดยคำสั่ง Published หรือ การ Share Report และ Share Dashboard โดยส่วน Power BI Service แบบ Pro และ Premium นั้น เราจะสามารถเลือกได้ว่า จะใช้ LInk เป็นแบบ Public หรือแบบที่มี Security ก็ได้ แต่ในส่วนของ Power BI Service แบบ Free จะสามารถทำได้เพียงแค่ส่วนของ Public เท่านั้น

การ Generate ก็จะสามารถเลือกใช้เป็น Link เพื่อส่ง E-mail ให้กับผู้รับปลายทางเพื่อให้ผู้รับปลายทางเปิดดูผ่าน Web Browser ได้ หรืออีกหนึ่งวิธีนั่นก็คือการ Embeded โค้ด HTML ซึ่งจะได้ Tag iFrame ของ HTML เพื่อนำไปใช้ในการประกอบกับเว็บไซต์ต่าง ๆ

จะเห็นได้ว่า ตัวอย่างเครื่องมือที่ยกมาให้รู้จักกัน มีจุดเด่นและความน่าสนใจทั้งหมด สุดท้ายแล้วเราต้องรู้ว่าเรามีข้อมูลแบบไหนอยู่ในมือ เครื่องมือแบบไหนที่จะเหมาะกับการเอาข้อมูลของเราไปปรับรูปแบบออกมาเป็น Dashboard เพื่อนำเสนอ อย่าลืมว่าทุกอย่างที่เราจะนำเสนอผ่าน Dashboard มันมีความหมาย Dashboard ไม่ใช่เพียงแต่จะทำออกมาดูสวยงามเท่านั้น ต้องอย่าลืมความสำคัญ และตอบสนองความอยากรู้ของคนที่เราต้องการจะไปนำเสนอด้วย เครื่องมือเป็นเพียงตัวช่วยที่จะทำให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น หากเราเลือกใช้อย่างถูกต้อง มันก็จะนำไปซึ่งความเข้าใจทั้งผู้ส่งสารและรับสารด้วย