×

START A PROJECT

We are here to build a high-quality extension for brands to serve your consumers.

    By Noon Saranya - 18 กุมภาพันธ์ 2022

    มิติใหม่ของวงการบันเทิงไทย BNK Governance token

    ปัจจุบันทราบกันดีว่าเทคโนโลยี Blockchain นวัตกรรมที่เข้ามาตอบโจทย์คนยุคใหม่ในเรื่องความง่ายและรวดเร็วในการทำธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์เพียงไม่กี่วินาที แม้จะไม่มีธนาคารตัวกลางแต่ยังคงความปลอดภัย และในปัจจุบันอุตาหกรรมการบันเทิงหรือหน่วยงานรัฐบาลของประเทศต่างๆ เริ่มหันมาศึกษาเทคโนโลยี Blockchain กันมากขึ้น


    เปิดประสบการณ์ดิจิทัลในวงการบันเทิงไทย

    นางสาวอัมพร สมบัติอารีพาณิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านบัญชีและการเงิน iAM กล่าวว่า จากความร่วมมือที่ผ่านมาระหว่าง “iAM” และ Token X ในการร่วมกันศึกษาและนำระบบบล็อกเชนมาพัฒนาประสบการณ์ของกลุ่มผู้สนับสนุนรวมถึง Use case ที่น่าตื่นเต้นรูปแบบใหม่ ๆ ด้วยการต่อยอดความร่วมมือผ่านการพัฒนา Utility Token พร้อมใช้ ภายใต้ชื่อเหรียญ BNK Governance Token บนแอพพ์ iAM48 โดยมีเป้าหมายสำคัญในการส่งเสริมการบริหารจัดการกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยหลักธรรมาภิบาลที่โปร่งใส (Decentralized Good Governance)” และตรวจสอบได้ ซึ่ง BNK Governance Token นี้ นับเป็นกุญแจสำคัญในการเพิ่มการมีส่วนร่วมระหว่างกลุ่มผู้สนับสนุนและศิลปินในรูปแบบใหม่ ๆ ที่ไม่เคยมีมาก่อนอย่างเช่น การใช้สิทธิออกเสียงในรูปแบบของการโหวตที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบกิจกรรมของศิลปิน (Governance Voting) การแลกหรือรับของรางวัลพิเศษของสมาชิก รวมถึงการเข้าร่วมโครงการผู้ถือโทเคน BNK (BNK Token Holder Program

    แล้วเทคโนโลยี Blockchain คืออะไร?

    ถ้าพูดให้เข้าใจง่าย ๆ มันคือระบบการเก็บข้อมูลแบบที่ไม่มีตัวกลาง หรือทำให้เราไม่จำเป็นต้องเชื่อตัวกลางคนใดคนนึงอีกต่อไป แต่ข้อมูลที่ได้รับจะถูกแชร์และจัดเก็บเป็นสำเนาไว้ในเครื่องของทุกคนที่ใช้ฐานข้อมูลเดียวกันเสมือน Chain โดยทุกคนจะรับทราบร่วมกัน ว่าใครเป็นเจ้าของและมีสิทธิในข้อมูล เมื่อมีการอัปเดตข้อมูลใด ๆ สำเนาข้อมูลในฐานเดียวกันก็จะอัปเดตตามแบบทันที ทำให้การปลอมแปลงหรือจะแฮ็กข้อมูลไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทุกคนต้องรับทราบและตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลร่วมกันได้อีกด้วย ทำให้เราทำธุรกรรมกันแบบ Peer-to-Peer ได้นั่นเอง

    ภาพ: ตัวอย่างโครงสร้างเทคโนโลยี Blockchian

    แล้ววัตถุประสงค์ของเทคโนโลยี Blockchain นั้นมีเพื่อการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลในด้านความโปร่งใส เพราะเรารู้ว่าไม่มีบริษัทไหน หรือใครที่จะเข้าไปแก้ไขข้อมูลย้อนหลังได้ และมันจะอยู่อย่างถาวรทำให้มีบางประเทศเริ่มเอาเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาใช้ในการเลือกตั้ง หรือลงคะแนนนั่นเองเพราะมันสามารถเอาชนะอุปสรรคทางภูมิศาสตร์ได้ ในกรณีที่ผู้เลือกตั้ง อยู่ห่างไกลจากสถานที่เลือกตั้ง เขาก็สามารถลงคะแนนได้เพียงแค่มีอินเตอร์เน็ต

    ยกตัวอย่างประเทศอินเดียที่คณะกรรมการการเลือกตั้งของอินเดีย (EC) กำลังพิจารณาเอาเทคโนโลยี Blockchain มาใช้เพื่อลดรายจ่ายต้นทุนจากการจัดหน่วยเลือกตั้งในที่ห่างไกล ซึ่งจะทำให้ประชาชนสามารถเลือกตั้งนอกเขตได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย หลังจากนี้หลายๆประเทศ และหลายบริษัทกำลังเริ่มทำการศึกษาเทคโนโลยีอย่างจริงจังเพื่อนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในธุรกิจ และให้มีความโปร่งใสมากขึ้น

    MORE ARTICLES

    0 Comment