สร้างระบบหลังบ้านเว็บไซต์ให้เหมาะกับธุรกิจ ดูวิธีวางแผนและการทำ

สำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่ขายออนไลน์ หรือ ธุรกิจที่เพิ่มช่องทางขายทางออนไลน์ แน่นอนว่าระบบหลังบ้านถือเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็นอย่างมากในยุค Digital tranformation เราลองมาดูวิธีสร้างและบริหารจัดการร้านค้าด้วย “ระบบหลังบ้าน” ที่จะช่วยจัดการยอดขาย และสต๊อกสินค้า ถูกต้อง ลดข้อผิดพลาด พร้อมทั้งช่วยให้การขายของออนไลน์กลายเป็นเรื่องง่าย

ถ้าพร้อมแล้วเราไปหาคำตอบไปพร้อมกันดีกว่า ว่าทำไมระบบหลังบ้านเว็บไซต์ถึงกลายเป็นตัวช่วยที่จำเป็นสำหรับธุรกิจออนไลน์ในปัจจุบัน

ทำความรู้กับ “ระบบหลังบ้าน” คือ

ระบบหลังบ้าน หรือบางคนอาจจะเรียกว่า ระบบหลังร้านออนไลน์ คือ ระบบที่มีหน้าที่คอยช่วยบริหารจัดการระบบร้านค้าออนไลน์หลังบ้าน ไม่ว่าจะเป็น การจัดการสินค้า รายการสั่งซื้อ การชำระเงิน การจัดโปรโมชั่น สถานะพัสดุ การจัดเรียงออเดอร์ สต๊อกสินค้า และระบบสมาชิก เป็นต้น ซึ่งการมีระบบหลังบ้านที่ดีและเหมาะสมจะช่วยลดขั้นตอนการทำงานที่ไม่จำเป็นออกไป ช่วยลดต้นทุน เพิ่มยอดขาย พร้อมทั้งช่วยลดข้อผิดพลาด และทำให้คุณสามารถเห็นภาพรวมของธุรกิจได้ นอกจากนี้ข้อมูลและสถิติต่าง ๆ ที่ได้จากระบบหลังบ้านยังสามารถนำไปวางแผนการตลาดเพื่อต่อยอดให้กับธุรกิจได้อีกด้วย

ระบบหลังบ้านจำเป็นต่อธุรกิจออนไลน์อย่างไร ?

สำหรับบางคนอาจจะยังนึกภาพตามไม่ออกใช่ไหมครับ ว่าระบบจัดการหลังบ้านจำเป็นต่อธุรกิจออนไลน์ยังไง ถ้าอย่างนั้นเรามาลองดูประโยชน์ของระบบหลังบ้านกันเลยดีกว่า 

1. ประหยัดเวลาในการทำงาน

ระบบหลังร้านสามารถช่วยลดเวลาการทำงานและลดขั้นตอนการทำงานที่ซับซ้อนลงได้ โดยเฉพาะร้านค้าออนไลน์ที่มีการไลฟ์สดเป็นประจำ ระบบหลังบ้านสามารถช่วยคุณในการจัดการออเดอร์ลูกค้าได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น การสรุปยอด จัดการรายการสั่งซื้อ เปิดบิลให้ลูกค้า และเช็คสต๊อกสินค้า ทำให้คุณไม่ต้องคอยกังวลระหว่างไลฟ์สด เพราะระบบหลังบ้านช่วยจัดการให้ทั้งหมด คุณเพียงแค่รอรับยอดชำระเงินและดำเนินขั้นต่อไปได้เลย

2. ลดข้อผิดพลาดในการทำงาน

ถ้าหากร้านค้าออนไลน์ของคุณเป็นร้านค้าที่ได้รับความนิยม และเป็นที่รู้จัก มีออเดอร์เข้ามาเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน แน่นอนว่าการจัดการออเดอร์และหลังบ้านด้วยตัวคนเดียวทั้งหมดมีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดสูง และเมื่อเกิดข้อผิดพลาดก็มักจะตามมาด้วยความล่าช้าจนทำให้ลูกค้าเกิดความไม่พอใจ ระบบหลังบ้านจึงเปรียบเสมือนฐานข้อมูลที่สำคัญและผู้ช่วยส่วนตัวของเจ้าของธุรกิจ ซึ่งระบบหลังบ้านจะเข้ามาช่วยจัดการระบบหลังบ้านทุกอย่าง ด้วยความรวดเร็วและแม่นยำมากขึ้น

3. ช่วยเพิ่มยอดขาย

เมื่อมีระบบหลังบ้านเข้ามาช่วยจัดการร้านค้าออนไลน์เจ้าของธุรกิจก็มีเวลามากเพื่อนำไปวิเคราะห์แผนการตลาด และในระบบหลังบ้านจะมีข้อมูลและสถิติต่าง ๆ ที่เก็บไว้ ทำให้รู้ Customer Insight ซึ่งถือว่าเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์และสามารถนำไปใช้คิดค้นกลยุทธ์การขายได้อย่างแม่นยำ ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มยอดขายให้แก่ร้านค้าได้ นอกจากนี้การมีระบบหลังบ้านที่ดีจะช่วยให้ Workflow ลื่นไหลทำให้ร้านค้าสามารถรับออเดอร์ได้มากกว่าเดิมอีกด้วย

4. ลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น

แน่นอนว่าเมื่อมีออเดอร์เข้ามาจำนวนมาก เจ้าของธุรกิจจำเป็นที่จะต้องจ้างพนักงานเพื่อเข้ามาช่วยในขั้นตอนต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การจัดออเดอร์ การเช็คสต๊อกสินค้า แอดมินตอบแชทลูกค้า การจัดการสถานะการจัดส่งสินค้าและอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งระบบหลังบ้านส่วนใหญ่มักจะมาพร้อมกับระบบอัตโนมัติที่สามารถช่วยจัดการขั้นตอนต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี

ระบบหลังบ้านเหมาะกับธุรกิจประเภทไหนบ้าง 

หลายคนอาจจะเข้าใจว่าระบบหลังบ้านเหมาะแค่กับธุรกิจออนไลน์เท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วระบบหลังบ้านเหมาะกับธุรกิจทุกประเภท ไม่ว่าจะออนไลน์ หรือ ออฟไลน์ เพราะระบบหลังบ้านสามารถช่วยบริหารจัดการร้านค้าได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น การเปิดบิล การจัดการออเดอร์ การจัดการสถานะสินค้า การชำระเงิน พร้อมทั้งยังเป็นพื้นที่จัดเก็บข้อมูลที่จำเป็นที่เจ้าของธุรกิจสามารถนำมาใช้วิเคราะห์เพื่อต่อยอดได้อย่างหลากหลาย

7 วิธี เลือกระบบหลังบ้านให้เหมาะสมกับธุรกิจ

สำหรับใครที่สนใจระบบหลังบ้านแต่ยังไม่รู้ว่าควรเลือกยังไง วันนี้ผมได้เตรียม 7 วิธี เลือกระบบหลังบ้านให้เหมาะสมกับธุรกิจ ดังนี้

  1. เลือกระบบที่ใช้งานง่าย สามารถตรวจสอบข้อมูลและสถานะต่าง ๆ ได้แบบ Real time พร้อมทั้งสามารถใช้งานได้หลายอุปกรณ์ เช่น คอมพิวเตอร์ สมาร์ตโฟน หรือ แท็บเล็ต

  2. ระบบหลังบ้านสามารถเชื่อมต่อได้หลาย Platform เช่น Shopee , Lazada , Website

  3. รองรับการจ่ายเงินที่หลากหลายรูปแบบ เช่น Online Banking , COD , เครดิตการ์ด และอื่น ๆ

  4. มีหน้า Dashboard (หน้าสถิติร้านค้า) และ การเก็บรวบรวมข้อมูล สำหรับสรุปยอดขาย ต้นทุน และกำไรของสินค้า

  5. จัดการสต๊อกสินค้าอย่างเป็นระบบ มีการบันทึกสินค้าเข้า - ออก - พร้อมขาย และตัดสต๊อกสินค้าทันทีเมื่อมีการจองเข้ามา

  6. เชื่อมต่อกับบริการขนส่งที่ได้มาตรฐาน เช่น ไปรษณีย์ไทย , Flash Express , Kerry Express , J&T Express , Best Express และอื่น ๆ

  7. สามารถเชื่อมต่อกับโปรแกรมที่ช่วยออกใบกำกับภาษีได้

สรุป

ระบบหลังบ้านจึงหมายถึงระบบที่มีการพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยบริหารจัดการร้านค้า ไม่ว่าจะเป็น ร้านออนไลน์ หรือ ออฟไลน์ ก็สามารถใช้ระบบหลังบ้านได้ โดยสาเหตุที่ทำให้ระบบหลังบ้านได้รับความนิยมมีหลายอย่าง เช่น ช่วยจัดการออเดอร์ได้อย่างเป็นระบบและรวดเร็ว เก็บข้อมูลและสถิติต่าง ๆ ที่สามารถนำมาวิเคราะห์เพื่อวางแผนการตลาดต่อยอดให้กับธุรกิจได้ ลดข้อผิดพลาดระหว่างทำงาน ช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น และช่วยเพิ่มยอดขาย และทั้งหมดที่กล่าวมาจึงกลายเป็นเหตุผลว่าทำไมระบบหลังบ้านถึงจำเป็นกับทุกธุรกิจนั้นเองครับ