×

START A PROJECT

We are here to build a high-quality extension for brands to serve your consumers.

    By HOCCO - 19 มีนาคม 2025

    API Bank เปลี่ยนทุกเรื่องรับและจ่ายเงินให้เป็นเรื่องง่าย สะดวก รวดเร็ว 

    ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมามีหลากธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยการนำเสนอบริการทางการเงินอย่าง API Bank ให้กับลูกค้าของตนเอง โดยในอดีตนั้น มีเพียงแค่ธนาคารเท่านั้นที่สามารถเสนอบริการทางการเงินให้ลูกค้าได้ เช่น การโอนเงิน การลงทุนในตลาดหุ้น การให้บริการจ่ายเงินเดือน และอื่น ๆ แต่อย่างไรก็ตาม ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีล่าสุดนี้ ทำให้ธนาคารสามารถให้การบริการเข้าถึงโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินได้อย่างสะดวกและง่ายดาย นั่นก็คือการให้บริการ API Bank ซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของ API แล้ว API Bank คืออะไร มีความสำคัญอย่างไร บทความนี้ได้รวบรวมมาให้คุณได้ลองศึกษาแล้ว!

     ทำความรู้จักกับ API Banking

    API Bank คือ Application Programming Interface (API) ของธนาคาร ซึ่งเป็นชุดเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้แอปพลิเคชันหรือระบบภายนอกสามารถเชื่อมต่อและโต้ตอบกับบริการของธนาคารได้โดยอัตโนมัติ เช่น การโอนเงิน ตรวจสอบยอดเงิน หรือขอรายการธุรกรรมต่าง ๆ เป็นต้น

    ซึ่ง API Bank จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงบริการทางการเงินภายใต้โซลูชั่นซอฟต์แวร์ที่ไม่ใช่ฟินเทค (FinTech) และช่วยให้ธุรกิจที่ไม่ใช่สถาบันทางการเงินสามารถให้บริการทางการเงินที่หลากหลายภายในแอปพลิเคชันหรือแพลตฟอร์มของตนเองได้เลย

    ความสำคัญของ API ในธุรกิจธนาคารและการเงิน

    API (Application Programming Interface) เป็นเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยให้ธุรกิจธนาคารและการเงิน สามารถให้บริการลูกค้าที่ไม่สะดวกเข้าไปทำธุรกรรมทางการเงินที่สาขาหรือลูกค้าที่ต้องการใช้บริการธนาคารออนไลน์ได้ดีขึ้น API Bank สำหรับธนาคารจึงมีความสำคัญ ดังต่อไปนี้

    1. เพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วในการให้บริการ

    API Bank ทำให้การโอนเงิน ตรวจสอบยอด หรือชำระเงินเกิดขึ้นแบบอัตโนมัติและเรียลไทม์ ลดขั้นตอนในการทำธุรกรรม ลดต้นทุนการดำเนินงาน เพราะลดการใช้แรงงานคน และเพิ่มความแม่นยำในการทำธุรกรรม นอกจากนั้นยังเพิ่มความเร็วในการพัฒนาแอปพลิเคชันอีกด้วย

    2. สนับสนุนการเติบโตของ Open Banking และ FinTech

    API Bank ช่วยให้ฟินเทค (FinTech) และสตาร์ทอัพ (Startup) พัฒนาแอปทางการเงินได้ง่ายขึ้น และทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ดีขึ้น เช่น การเปรียบเทียบดอกเบี้ยอัตโนมัติ หรือระบบวิเคราะห์การใช้จ่าย

    3. ปรับปรุงความปลอดภัยและการปฏิบัติตามกฎระเบียบ (RegTech)

    API Bank ใช้เทคโนโลยีการเข้ารหัสและระบบยืนยันตัวตนที่ปลอดภัย ช่วยลดความเสี่ยงในการฉ้อโกง และช่วยให้ธุรกิจสามารถปฏิบัติตามกฎหมายทางการเงินได้ง่ายขึ้น เช่น ระบบ KYC (Know Your Customer) และ AML (Anti-Money Laundering)

    4. เพิ่มความสามารถในการเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มอื่น (Ecosystem Integration)

    API Bank ทำให้บริการทางการเงินสามารถทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ แอปธุรกิจ และบริการอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้น จึงทำให้เกิดโมเดลธุรกิจใหม่ เช่น Embedded Finance (การฝังบริการทางการเงินเข้าไปในแอปพลิเคชันอื่น)

    5. ขยายโอกาสทางธุรกิจและสร้างรายได้ใหม่ ๆ

    ช่วยให้ธนาคารและบริษัททางการเงินเปิดบริการใหม่ได้เร็วขึ้น และธนาคารสามารถให้บุคคลที่สามเข้าถึง API ได้ผ่านโมเดล Subscription หรือ Revenue Sharing ซึ่งทำให้สามารถสร้างรายได้จาก API Economy ได้

    ซึ่งหากคุณกำลังต้องการสร้าง API ให้กับธุรกิจของคุณ แต่ยังไม่ได้มีความรู้ในเรื่องการเขียนโปรแกรม Big Data และกำลังมองหาบริษัทซอฟต์แวร์เฮาส์เพื่อให้สร้าง API ให้อยู่ล่ะก็ Hocco ของเรา คือ บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์เฮาส์ที่ให้บริการในด้านซอฟต์แวร์ และดิจิทัลโซลูชั่นแบบครบวงจร พร้อมบริการดูแล และบำรุงรักษาระบบด้วยนักพัฒนาซอฟต์แวร์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจของคุณสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างสะดวกสบายในทุกขั้นตอน

    ประโยชน์ของ API Banking

    ● ช่วยให้ลดขั้นตอนในการทำธุรกรรม ทำให้ไม่ต้องเข้าธนาคารหรือใช้แอปธนาคารทุกครั้ง

    ● สามารถลดข้อผิดพลาดจากการป้อนข้อมูลด้วยมือ ด้วยการป้อนอัตโนมัติและมีแม่นยำ

    ● มีความปลอดภัย เพราะ API มักใช้มาตรฐานการเข้ารหัสและการยืนยันตัวตนที่ปลอดภัย

    ● ทำให้ธุรกิจสามารถเชื่อมต่อกับบริการธนาคารได้ง่ายขึ้น จึงทำให้สามารถรองรับธุรกิจต่าง ๆ และฟินเทค (FinTech) ได้หลากหลาย

    API Bank จึงเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาฟินเทค (FinTech) และ Open Bank ที่ช่วยให้บริการทางการเงินทันสมัยและเข้าถึงได้มากยิ่งขึ้น 

    API Banking vs Open Bank แตกต่างกันยังไง ?

    API Banking คือ การที่ธนาคารให้บริการ API เพื่อให้ธุรกิจหรือแอปพลิเคชันของบุคคลที่สามสามารถเชื่อมต่อและใช้บริการของธนาคารได้ เช่น การโอนเงิน ตรวจสอบยอดเงิน หรือขอรายการธุรกรรม

    Open Banking เป็นแนวคิดที่ธนาคารเปิด API ให้บุคคลที่สาม (Third-party providers - TPPs) เข้าถึงข้อมูลบัญชีและทำธุรกรรมได้ โดยได้รับความยินยอมจากลูกค้า ซึ่งช่วยให้เกิดการแข่งขันและนวัตกรรมทางการเงิน เช่น แอปบริหารการเงิน (Personal Finance Management - PFM) หรือบริการเปรียบเทียบสินเชื่อ

    ถ้าให้เปรียบเทียบอย่างง่าย ๆ คือ

    API Banking = เครื่องมือ/เทคโนโลยี ที่ธนาคารพัฒนา

    Open Banking = กฎเกณฑ์ที่ทำให้ API เปิดกว้างขึ้นเพื่อส่งเสริมนวัตกรรมทางการเงิน

    ถ้าคุณเป็นนักพัฒนาแอปฟินเทค (FinTech) หรือธุรกิจที่ต้องการเชื่อมต่อกับธนาคาร

    API Banking ช่วยให้คุณเชื่อมระบบกับธนาคารได้โดยตรง

    Open Banking ช่วยให้คุณดึงข้อมูลจากหลายธนาคารได้ง่ายขึ้น

    ตัวอย่างการใช้ API Banking ในธุรกิจธนาคารและการเงิน

     1. ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) – SCB Developer API

    ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) ให้บริการ SCB Developer API ซึ่งช่วยให้ธุรกิจสามารถเชื่อมต่อกับระบบธนาคารได้อย่างราบรื่น

    ตัวอย่างการใช้งาน เช่น

    ● Shopee & Lazada – ใช้ SCB API PAYMENT สำหรับ Payment Gateway เพื่อให้ลูกค้าชำระเงินผ่านบัญชีธนาคารได้อัตโนมัติ

    ● ฟินเทค (FinTech) และสตาร์ทอัพ (Startup) – ใช้ SCB API สำหรับ Auto Debit (หักเงินอัตโนมัติ) ในบริการสมัครสมาชิกหรือสินเชื่อ

    2. ธนาคารกสิกรไทย (KBank) – KBank Open API

    KBank เปิดตัว KBank Open API เพื่อให้ธุรกิจและฟินเทคสามารถเชื่อมต่อกับระบบธนาคารได้ง่ายขึ้น

    ● Rabbit LINE Pay – ใช้ KBank API เชื่อมต่อบัญชีธนาคารกับกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-Wallet) เพื่อเติมเงินอัตโนมัติ

    ● LINE BK – บริการสินเชื่อและบัญชีเงินฝากที่ใช้ API เชื่อมต่อกับระบบธนาคารโดยตรง

     สรุป

    API Bank คือสิ่งที่ธุรกิจในยุคใหม่ต้องการเพื่อให้โซลูชั่นซอฟต์แวร์ทุกประเภทสามารถให้บริการฟินเทค (FinTech) ที่ครอบคลุมผ่านแอปพลิเคชันได้โดยตรง การใช้โซลูชัน API Bank อาจเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ต้องการอิสระในการให้ลูกค้าสามารถใช้บริการต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องสร้างโซลูชันที่ซับซ้อนและหลายระดับ ซึ่งครอบคลุมทุกอย่างในคราวเดียว API Bank จึงมอบอิสระและความยืดหยุ่นในการบูรณาการกับฟีเจอร์เฉพาะที่จำเป็นสำหรับธุรกิจของคุณโดยเฉพาะ

    0 Comment