ในขณะที่ BI Developer คือ บุคคลที่ใช้เครื่องมือ BI เข้ามาวิเคราะห์ข้อมูล สร้าง Visulization และทำออกมาเป็นรายงาน (Report) เพื่อหา Insight จากข้อมูลไปใช้ในการตัดสินใจที่จะมีผลกระทบกับธุรกิจโดยตรง ทำให้ธุรกิจมองเห็นโอกาสในการเติบโต เพิ่มส่วนแบ่งกำไร วิเคราะห์ความเสี่ยง และลดต้นทุนได้
หลักการทำงานของ Business Intellingence
หลักการทำงานของ Business Intelligence (BI) คือ สามารถแบ่งออกเป็นขั้นตอนหลัก ๆ ได้ดังนี้
1. การรวบรวมข้อมูล (Data Collection)
โดยรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ มารวบรวมจัดเก็บไว้ด้วยกัน เพื่อให้ง่ายต่อการวิเคราะห์และการเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ฐานข้อมูลภายในองค์กร เช่น ERP, CRM software หรือไฟล์ Excel, CSV และข้อมูลออนไลน์ เช่น เว็บไซต์ หรือ Social Media
2. การจัดเก็บและการประมวลผลข้อมูล (Data Storage and Processing)
ทำงานโดยการจัดเก็บข้อมูลที่รวบรวมมาไว้ใน Data Warehouse หรือ Data Lake เพื่อรองรับข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อทำการประมวลผลข้อมูลและปรับโครงสร้างข้อมูลให้พร้อมสำหรับการวิเคราะห์ และมีการทำความสะอาดข้อมูล (Data Cleaning) เพื่อลบข้อมูลที่ซ้ำซ้อนหรือไม่ถูกต้อง เพื่อให้ข้อมูลอยู่ในรูปแบบที่พร้อมใช้งาน
การนำ BI มาปรับใช้ในธุรกิจเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้องค์กรสามารถเติบโตและแข่งขันได้ในยุคดิจิทัล โดยเราได้สรุปประโยชน์ของ Business Intellingence ที่มีต่อธุรกิจมาดังนี้
แนะนำ 5 โปรแกรมและซอฟต์แวร์สำหรับ Business Intellingence
ปัจจุบันโปรแกรม Business Intelligence Software ที่ได้รับความนิยมมีอยู่หลายซอฟต์แวร์ด้วยกัน คือ 5 โปรแกรมนี้ที่มีคุณสมบัติเด่นเฉพาะตัว ขึ้นอยู่กับการใช้งานและความต้องการของธุรกิจของคุณในการเลือกใช้ตามนี้
1. Power BI
Power BI คือ Business Intelligence Toolห ที่มีความโดดเด่นตรงที่มีเครื่องมือที่ช่วยในการสำรวจข้อมูลเบื้องต้นอย่างรวดเร็ว และการอัปเดตข้อมูลอัตโนมัติ นอกเหนือจากนี้ยังมีเครื่องมือในการแสดงผลที่เหมาะสมต่อการใส่ในเว็บแอปพลิเคชันและโทรศัพท์มือถือในระบบต่าง ๆ เช่น Android และ iOS อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้งานยังต้องเสียค่าใช้จ่ายในการแสดงผลผ่าน URL ต่อสาธารณชนหรือกลุ่มผู้ใช้งานที่ต้องการจำกัดสิทธิ์อยู่
2. Tableau
เป็นเครื่องมือที่สามารถหา Trend ของข้อมูลและทำ Data Visulization บน Dashboards ได้ ทำการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มความสามารถในการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว โดยมีตัวเชื่อมไปยังแหล่งข้อมูลที่ได้รับความนิยมต่าง ๆ เช่น MS Excel, Google Analytics หรือ SalesForce เป็นต้น
3. Google Looker Studio
คืออีกหนึ่ง Business Intelligence Toolห ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีอินเตอร์เฟซที่ใช้งานง่าย และใช้งานได้ฟรีเพียงแค่มี Gmail หรือ Google Account โดยมีฟีเจอร์ที่โดดเด่นคือ สามารถรวบรวมข้อมูลจากแพลตฟอร์มอื่น ๆ ของ Google เช่น Google Ads, Google Analytics, Google Search Console และ YouTube เป็นต้น รวมไปถึงแพลตฟอร์ม Social Media อื่น ๆ อย่าง Facebook และ X พร้อมมีแทมเพลตมากถึง 30 รูปแบบให้เลือกใช้
4. Qlik Sense
Qlik Sense พัฒนาโดย Qlik มีจุดเด่นในเรื่องการวิเคราะห์ข้อมูลและการทำงานแบบ Associative Data Model ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นหาความสัมพันธ์ในข้อมูลได้อย่างลึกซึ้ง รวดเร็ว และสามารถเชื่อมต่อกับแหล่งข้อมูลได้หลายประเภท แถมยังสามารถดาวน์โหลดปลั๊กอินมาใช้ได้ฟรีอีกด้วย
5. SAP BusinessObjects
เป็นเครื่องมือ BI ที่ SAP พัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์ความต้องการด้าน Business Intelligence ที่มาพร้อมกับความสามารถด้านการทำรายงานอัตโนมัติและการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก การแสดงผลข้อมูลแบบ Real-Time และการทำ Data Visulization ที่จะช่วยให้ผู้ใช้ สามารถตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพ
ธุรกิจแบบไหนบ้างที่เหมาะกับการนำใช้ Business Intellingence
Business Intelligence (BI) เหมาะกับธุรกิจทุกประเภทที่มีข้อมูลจำนวนมากและต้องการใช้ข้อมูลนั้นเพื่อตัดสินใจและเพิ่มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะธุรกิจในกลุ่มดังต่อไปนี้
0 Comment