Digital transformation คืออะไร สำคัญอย่างไรต่อองค์กรและธุรกิจ ?

ในปัจจุบันนี้ ไม่ว่าจะหันไปมองทางไหนก็จะเห็นเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้าออนไลน์ การทำธุรกรรมโอนเงิน การเรียกใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ ฯลฯ ซึ่งทั้งหมดนั่นก็คือ Digital Transformation หรือ การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล นั่นเอง เพราะ Digital Transformation คือ การนำเครื่องมือทางเทคโนโลยีเข้ามาปรับปรุงและพัฒนากระบวนการทำงานในส่วนต่าง ๆ ของธุรกิจและองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อให้เข้ากับความต้องการของตลาด และสร้างประโยชน์สูงสุดให้แก่ลูกค้าด้วยเช่นกัน

Digital transformation คืออะไร

Digital Transformation หมายถึง การนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้เพื่อปรับปรุง หรือเปลี่ยนแปลงกระบวนการและการทำงานทั้งหมด ซึ่งกระบวนการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นตั้งแต่กระบวนการผลิตไปจนถึงการบริการลูกค้าขององค์กรและบริษัทต่าง ๆ เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมและความเปลี่ยนแปลงทางองค์กรไปในทางที่ทันยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ส่งผลให้การทำงานของทุก ๆ ฝ่ายมีประสิทธิภาพ ลดช่องโหว่ได้มากขึ้น

การบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลเข้าไปในทุกพื้นที่ขององค์กร เปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินงานและมอบคุณค่าให้กับลูกค้าขององค์กรโดยพื้นฐาน ไม่ได้เป็นเพียงการยอมรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการใช้เทคโนโลยีเหล่านั้นเพื่อสร้างวิธีการทำงานใหม่ ๆ ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ ๆ และโมเดลธุรกิจใหม่ ๆ อีกด้วย

โดยตัวอย่างที่มีให้เห็นภาพชัดขึ้นก็คือ การเก็บบันทึกข้อมูลเป็นแฟ้มเอกสาร ที่นับวันผู้คนยุคใหม่หันไปใช้บริการการเก็บข้อมูลผ่านอินเทอร์เน็ต ในรูปแบบดิจิทัลแทน หรือการปรับกระบวนการทำงานให้เป็นแบบออนไลน์ เช่น การบริการผ่าน Could เพื่อความสะดวกให้แก่การทำงานโดยเราสามารถทำงานที่ไหนก็ได้โดยไม่ต้องไปที่ออฟฟิศ ซึ่งกระบวนการดังกล่าวก็คือ Digital Transformation

ประเภทของ Digital Transformation

1. Process Transformation กระบวนการที่มีจุดประสงค์เพื่อสร้างสรรค์วิธีการทำงานรูปแบบใหม่ ทำให้สามารถลดต้นทุน ลดระยะเวลา และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน โดยใช้ระบบต่าง ๆ เช่น API หรือ Machine Learning
2. Business Model Transformation กระบวนการที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการส่งมอบสินค้าเดิม ๆ ทำให้ทันสมัยและตอบโจทย์ลูกค้าได้ดีขึ้น เช่น ธุรกิจสตรีมมิ่งผ่านเว็บไซต์
3. Domain Transformation กระบวนการขยายสินค้าไปสู่ตลาดใหม่หรือสร้างรูปแบบธุรกิจใหม่ๆในอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นตัวขับเคลื่อน เช่น การเปิดตัวเว็บไซต์ในเครือข่าย
4. Cultural/Organizational Transformation กระบวนการพัฒนาบุคลากรให้เข้าใจ มีความรู้ความสามรถ และทำงานร่วมกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ผ่านการนำวิธีการ Agile พร้อมมุ่งเน้นการให้บริการลูกค้า

ความสำคัญของ Digital Transformation ต่อธุรกิจและองค์กร

ปัจจุบันธุรกิจหลายแห่งใช้ Data เป็นหนึ่งในเครื่องมือในการทำการตลาด ทำให้ Digital Transformation กลายเป็นกระบวนการที่สำคัญที่จะช่วยขับเคลื่อนองค์กรและธุรกิจ เพราะถ้าหากองค์กรที่มีการปรับตัวให้เข้ากับการทำงานที่ก้าวหน้าได้ดี ก็จะช่วยให้ธุรกิจของคุณมีความได้เปรียบทางการตลาด และสามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่มีพฤติกรรมเปลี่ยนไปจากที่เดิม ทำให้ธุรกิจของคุณเหนือกว่าคู่แข่งในตลาดเดียวกัน 

ข้อดีและข้อจำกัดของ Digital Transformation

การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลนี้ช่วยในการเก็บรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์เพื่อให้องค์กร และธุรกิจ มีความพร้อมในโลกดิจิทัลมากยิ่งขึ้น ซึ่ง Digital Transformation ก็มีข้อดีข้อเสียเช่นกัน จะมีอะไรบ้างไปดูกันได้เลย

ข้อดี

 1. ลดค่าใช้จ่ายในการจ้างแรงงาน

เมื่อ Digital Transformation ได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากในวงการธุรกิจและอุตสาหกรรม ทำให้การทำงานบางอย่างในอดีตที่เคยใช้แรงงานคนเป็นหลัก ถูกเปลี่ยนมาเป็นเทคโนโลยีแทน ข้อดีคือเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพจะช่วยเพิ่มยอดผลิต และทำให้งานที่ออกมามีความสมบูรณ์แบบกว่าจากแรงงานคน ทำให้คุณไม่จำเป็นต้องหมดทุนไปกับการจ้างแรงงาน หรือค่าใช้จ่ายสำหรับส่งพนักงานไปอบรมอีกต่อไป

 2. การเก็บรวบรวมข้อมูลอย่างครบถ้วน

การเก็บรวบรวมข้อมูลสำคัญต่างๆ ลงบนกระดาษเหมือนในอดีต อาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดได้ง่าย และไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างครบถ้วน ซึ่งเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ยุคดิจิทัล เทคโนโลยีที่เข้ามาทำให้เกิดคลังเก็บข้อมูลออนไลน์ เป็นศูนย์รวมข้อมูลจากหลายๆแหล่ง รวบรวมเอาไว้ในที่เดียวกัน เก็บข้อมูลได้อย่างครบถ้วน และสามารถติดตามข้อมูลได้ง่ายดายว่ามีแหล่งที่มาจากไหนบ้าง

 3. ปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า

สร้าง Customer Experience ที่ดีกว่าเดิม ลูกค้าคือหัวใจสำคัญของการทำธุรกิจ และประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience) เป็นอีกสิ่งสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าและบริการได้ และ Digital Transformation จะเข้ามาช่วยพัฒนาเรื่องนี้ให้ดีกว่าเดิม ทั้งจาก Customer insight ข้อมูลลูกค้าที่เก็บไว้ได้ เครื่องมือที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูล รวมไปถึงเทคโนโลยีที่ทำให้ลูกค้าตื่นตาตื่นใจ และความง่าย ความรวดเร็วในการซื้อสินค้า รวมถึงการใช้บริการที่ลูกค้าได้รับจากการใช้เทคโนโลยีมาพัฒนา

 4. ขับเคลื่อนธุรกิจไปสู่การแข่งขัน

ไม่ว่าคุณจะยอมรับในการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีหรือไม่ แต่ธุรกิจอื่นๆ โดยเฉพาะคู่แข่งของคุณกำลังมองหาและคอยพัฒนา Digital Transformation ของพวกเขาอยู่เสมอ ซึ่งแม้ว่าจะต้องยอมรับการเปลี่ยนแปลง แต่นั่นจะเป็นจุดที่ทำให้คุณสามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้

ข้อจำกัด

 1. ต้นทุนค่าใช้จ่ายที่สูง

มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสูง เนื่องจากต้องการลงทุนกับซอฟต์แวร์และบุคลากรที่มีความรู้ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่ชำนาญ รวมถึงต้องทำการตลาดดิจิทัลอย่างต่อเนื่อง เช่น ยิงโฆษณา เพื่อไม่ให้ธุรกิจถูกกลืนหายไป

 2. มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา

ระบบซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ต้องการการบำรุงรักษาและอัปเดตอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาประสิทธิภาพและการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล ส่งผลต่อการมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานระยะยาว

 3. ความปลอดภัยทางข้อมูล

แม้ว่าการนำ AI หรือซอฟต์แวร์มาใช้ในการจัดเก็บและรักษาความปลอดภัยของข้อมูลได้ แต่ยังมีความเสี่ยงต่อการถูกโจมตีด้านระบบคอมพิวเตอร์อยู่เช่นกัน แม้จะเป็นไปได้ยากก็ตาม

 4. การแข่งขันของตลาดโลก

มีการแข่งขันสูง และไม่ใช่ทุกธุรกิจสามารถทนทานต่อการแข่งขันนี้ได้ เนื่องจากต้นทุนในการลงทุนที่สูงนั่นเอง

องค์ประกอบหลักของ Digital transformation

องค์ประกอบของ Digital Transformation มีอะไรบ้าง หลักๆนั้น มีด้วยกันอยู่ 5 หัวข้อ ได้แก่

1. บุคคลในองค์กร

ความสำเร็จของ Digital Transformation จะเกิดขึ้นได้หรือไม่นั้น การร่วมมือร่วมใจกันของคนในองค์กรนั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นเป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากว่าคนในองค์กรนั้นมีความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน มองกันไปในคนละทิศทาง หรือไม่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีที่สมดุลกัน ก็ยากที่จะทำให้เกิดการพัฒนา

2. หาเป้าหมายในการทำ Digital Transformation

เป้าหมายของการเปลี่ยนแปลงองค์กรไปสู่ Digital Transformation นั้น ต้องเหมาะสมและชัดเจน เพื่อให้คนในองค์กรสามารถเข้าใจถึงสาเหตุที่เกิดการเปลี่ยนแปลง และมองเห็นความจำเป็นที่ต้องมีการเปลี่ยนแปลงได้ตรงกัน

3. ระบุระบบการทำงานให้ชัดเจน

เทคโนโลยีที่เข้ามาใหม่ ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการทำงาน ดังนั้น จึงต้องมีการกำหนดจุดประสงค์ในสิ่งที่จะทำ และกำหนดระบบการทำงานให้ชัดเจน เพื่อให้เกิดการเข้าใจที่ตรงกัน เพราะหากไม่มีความชัดเจน ก็จะส่งผลให้ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงไปสู่ Digital Transformation

4. เรียนรู้และรู้จักเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้

Digital Transformation แน่นอนว่าคือเรื่องของเทคโนโลยีที่ทันสมัย ความเข้าใจในเทคโนโลยีจึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก เพราะหากไม่มีความเข้าใจ ก็จะไม่สามารถนำเทคโนโลยีที่มีอยู่นั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ และยังส่งผลให้ Digital Transformation นั้นไม่ประสบความสำเร็จอีกด้วย

5. ปรับเปลี่ยนเพื่อให้ทันตามสถานการณ์

เมื่อเข้าสู่ยุคดิจิทัล เทคโนโลยีต่างๆยังคงเป็นเรื่องใหม่ และมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา Digital Transformation แบบที่เคยทำอาจจะไม่ส่งผลได้เหมือนเดิม ทำให้ต้องมีการศึกษาและพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้องค์กรของคุณสามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ทันตามสถานการณ์ของโลก

ตัวอย่างธุรกิจและองค์กรที่ใช้ Digital transformation

ลองมาดูตัวอย่างธุรกิจและองค์กรที่ใช้ Digital Transformation ที่ใกล้ตัวเรามากที่สุด เพื่อให้เห็นภาพได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

●ธนาคาร จากการกดเงินผ่านตู้ เปลี่ยนมาเป็นการใช้งานได้ผ่านทางโทรศัพท์ได้เลย ไม่ว่าจะเป็น การโอนเงิน ชำระสินค้า ตรวจสอบยอด ทำให้ลูกค้าสะดวกมากขึ้น ซึ่ง Mobile Banking กลับกลายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับยุคสมัยปัจจุบันที่ทุกธนาคารตอนนี้จำเป็นต้องมี

● ร้านค้าปลีก-ส่ง การสั่งของออนไลน์เข้ามามีบทบาท ไม่ว่าจะ Lazada, Shopee หรือแบรนด์อื่นๆ ทำให้ห้างร้านทั่วไปเริ่มใช้บริการ E-commerce การโฆษณาออนไลน์ รวมถึงระบบ CRM ทั้งการเข้าร่วมไปขายในเว็บไซต์นั้น หรือตั้งเว็บไซต์ของตัวเอง ทำเพจเฟซบุ๊ก และมีการเก็บข้อมูลผู้ใช้อย่างเป็นระบบ

● ธุรกิจเช่าดีวีดีเปลี่ยนเป็นธุรกิจสตรีมมิ่งผ่าน Netflix, HBO, Prime Video, Apple TV หรือ Disney+ โดย Netflix ประสบความสำเร็จจากการปรับเปลี่ยนองค์กรโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ตั้งแต่โมเดลธุรกิจไปจนถึงวิธีการสื่อสารกับลูกค้า ใช้ข้อมูลและการวิเคราะห์เพื่อพัฒนาธุรกิจ การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้ Netflix สามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคได้สำเร็จ และกลายเป็นผู้นำตลาดสตรีมมิ่งในปัจจุบัน

● ค่ายเพลง การที่เราหาเพลงฟังจากโลกออนไลน์ได้ง่าย ทั้งแท้และเถื่อน ทำให้ค่ายเพลงใหญ่น้อยต้องขยับตัว ทำเพลงลงแพลตฟอร์มต่างๆ มากขึ้น รวมถึงการขายเพลงออนไลน์มากขึ้น เพื่อให้ตัวเองสามารถมีรายได้ในการพัฒนาองค์กรต่อไปได้

แนวโน้มเทรนด์ Digital Transformation ในอนาคต

ในปัจจุบัน Digital Transformation ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อยธุรกิจและองค์กรให้เติบโตอย่างรวดเร็ว แม่นยำ และยั่งยืน แน่นอนว่าในอนาคต Digital Transformation จะเข้ามามีบทบาทสำคัญเพิ่มมากขึ้น ทั้งในแง่มุมของการทำงานและการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น AI จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำงาน อย่างการช่วยวิเคราะห์ข้อมูล การสร้างนวัตกรรมใหม่ ๆ หรือ Data management ที่ช่วยจัดการข้อมูลจำนวนมหาศาลที่องค์กรมีอยู่ ทำให้นักการตลาดมีข้อมูลที่มีประโยชน์ สามารถนำไปใช้วิเคราะห์ เพื่อวางแผนต่อได้ หรือ เทคโนโลยี Blockchain จะไม่เพียงใช้งานในเรื่องของคริปโตเพียงเท่านั้น แต่ยังสามารถนำมาปรับใช้กับระบบอื่นๆ เช่น Cyber Security เพื่อช่วยให้ระบบทำงานดีขึ้นได้อีกด้วย

สรุป

ดิจิทัลคือโลกใบใหม่ที่จะพัฒนาไปอย่างไม่หยุดนิ่ง และความหมายของธุรกิจดิจิทัลก็คือธุรกิจที่พร้อมจะพัฒนาไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่งเช่นกัน ดังนั้น ทุก ๆ ธุรกิจที่ต้องการจะมีที่ยืนในโลกยุคดิจิทัลนี้ จึงจำเป็นต้องพึ่งพากระบวนการที่เรียกว่า Digital Transformation ซึ่งก็คือสิ่งที่จะพาธุรกิจของคุณไปยืนในจุดเดียวกันกับคู่แข่งในทุกเจ้าได้

แต่สำหรับผู้ที่สนใจต้องการทำ Digital Transformation บริษัท Hocco ของเราเป็นบริษัทที่

นำเสนอดิจิทัลโซลูชั่นแบบครบวงจร การออกแบบซอฟต์แวร์โซลูชั่น ออกแบบเว็บไซต์ และดำเนินการติดตั้งระบบอย่างแม่นยำ นอกจากนี้ เรายังให้บริการดูแลและบำรุงรักษาระบบเพื่อช่วยสนับสนุนให้ธุรกิจของคุณสามารถดำเนินงานได้อย่างสะดวกสบายในทุกขั้นตอน ด้วยความเชี่ยวชาญด้าน IT consultant เราสามารถช่วยดูแลการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของคุณ เพื่อให้คุณสามารถโฟกัสที่การเติบโตของธุรกิจได้อย่างไร้กังวล สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ hello@hocco.co หรือ โทร. 064-616-6426, 084-733-2417

อ้างอิง

https://enterprisersproject.com/what-is-digital-transformation

https://www.mckinsey.com/featured-insights/mckinsey-explainers/what-is-digital-transformation