×

START A PROJECT

We are here to build a high-quality extension for brands to serve your consumers.

    By Kaewklaow Robru - 20 กรกฎาคม 2022

    JulWallet ระบบการเงินที่ถูกสร้างขึ้นด้วยความหวังที่จะปฏิวัติตลาดการเงินดิจิทัล

    สองบทความก่อนหน้านี้ผมได้เขียนถึงแพลตฟอร์ม NFT Marketplace ที่โดดเด่นในตลาดตอนนี้ไม่ว่าจะเป็น OpenSea.io และ Foundatio.app ซึ่งน่าจะทำให้ทุกคนได้รู้ถึงข้อมูลเบื้องต้นสำหรับทั้ง 2 แพลตฟอร์มนี้กันแล้ว วันนี้เองผมจะพาทุกคนไปรู้จักกับ JulWallet หรือ JustLiquidity ที่เป็นรูปแบบหนึ่งของเงินดิจิทัล (digital currency) ในตลาด คริปโทเคอร์เรนซี (Cryptocurrency) ที่ทำงานบนระบบ Blockchain ในปัจจุบันนี้ไปพร้อม ๆ กันครับ

    ภาพ; JulWallet Logo. จาก; https://julwallet.com/

    JulWallet เป็นระบบการเงินที่กระจายอำนาจซึ่งสร้างขึ้นเพื่อปฏิวัติตลาดการเงิน โดยการทำงานของ JulWallet จะหลีกเลี่ยงบุคคลที่สามหรือ third parties ที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวระหว่างคุณกับเงินที่อยู่ใน Wallet ของคุณ ซึ่งเป้าหมายและความสำสูงสุดคือการจัดลำดับความสำคัญและตอบสนองผู้ใช้ทุกคน เพียงแค่มี Smart Phone ที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเท่านั้น

    จาก Whitepapaer ของ JulWallet ที่ได้เขียนเอาไว้ถึงบริการด้านการเงินว่า บริการธนาคารทั่วไปเป็นสิ่งฟุ่มเฟือยที่พลเมืองทุกคนไม่สามารถเข้าถึงได้ JulWallet บอกว่าประชากรกลุ่มที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการด้านธนาคารนี้ไม่สำควรถูกทิ้งไว้โดยปราศจากระบบการเงินที่เชื่อถือได้และได้รับการปกป้องที่เหมาะสม ซึ่งจากการอ้างอิงแล้ว จำนวนของประชากรทั้งหมดที่ถูกละเลยโดยสถาบันการเงินทั่วไปคืออยู่ที่ประมาณ 1.7 พันล้านคนเลยทีเดียว

    ภาพ; One-Stop Wallet for Storing, Selling and Buying Tokens. จาก; https://julwallet.com/app

    JulWallet เองจะมี JulCard ที่เป็นบัตรเดบิตเสมือนจริงที่ให้ผู้ใช้ชำระเงินกับผู้ค้ากว่า 60 ล้านคนทั่วโลก ด้วยการกระจายอำนาจที่บริสุทธิ์จนกว่าเงินจะไปถึงผู้ให้บริการชำระเงิน สามารถใช้จ่าย Crypto ได้ทุกที่ ทั้งทางออนไลน์และในร้านค้าออฟไลน์ และจะได้รับ Crypto rewards มากถึง 6% ทุกครั้งที่คุณใช้จ่ายกับ JulCard แต่ Cashback Rewards ดังกล่าวจะไม่สามารถใช้ได้ทันที นอกจากนี้ยังสามารถผูกใช้ร่วมกับ Wallets อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Apple Pay, Google Pay และ Samsung Pay อีกด้วย 

    ภาพ; Spend Crypto Anywhere จาก; https://julwallet.com/card

    และนอกจากนี้ยังมีในส่วนของการเข้าถึงแพคเกจเพิ่มเติมของ JulCard เราจะต้อง Stake JulD หากต้องการเพิ่มวงเงินในการใช้จ่ายรายวันหรือรับเงินคืนมากขึ้น เราต้องทำการ Stake JulD เพื่ออัปเกรดแพ็คเกจของเรานั่นเอง และการ Stake นั้นสามารถทำอย่างไรได้บ้าง การ Stake ก็จะคล้ายคลึงกับการที่เรานำเงินไปฝากธนาคาร แต่มันจะเป็นการฝากเงินดิจิทัลไว้ในแพลตฟอร์มหรือกระเป๋าเงินที่รองรับการ Stake ซึ่งรางวัลและผลตอบแทนก็จะมีเงื่อนไขแตกต่างกัน

    JulWallet เองมีในส่วนของ Integrated Token ที่นอกจาก JulD แล้วก็มีอีกมากมายที่รองรับไม่ว่าจะเป็น SpookySwap, Fantom Token (FTM), BTC หรือ Bitcoin, ethereum, MAI (MIMATIC), USDC หรือ USD Coin และ tomb

    ภาพ; Integrated Tokens จาก; https://julwallet.com/card

    ข้อดีที่ JulWallet ทำให้หลายคนเลือกใช้

    - Cashback Offer อย่างแรกที่เคยบอกไปคือหากมีการใช้จ่าย Crypto ด้วย JulCard ก็จะได้รับเงินคืนสูงถึง 6%

    - Compatibility คือสามารถใช้งานร่วมกับ Apple Pay, Google Pay และ Samsung Pay

    - รองรับการใช้งานมากกว่า 62 ประเทศ

    - Funding Control คืออยู่ภายใต้การควบคุมของเรา 100% แน่นอนด้วยสิ่งที่เรียกว่า Smart Contract Stored Debit Card Funds

    - Easy To Install โดยนับว่าเป็น Decentralized Wallet ที่ติดตั้งง่ายสุด ๆ

    ภาพ; Integrated Networks. จาก; https://julwallet.com/app

    Julwallet ยังเป็นอีกหนึ่งอย่างที่จะพาเราไปสัมผัสประสบการณ์การเข้าถึงเครือข่าย Crosschain และการโอนโทเค็น Crosschain มี Integrated Networks ที่รองรับมากมายไม่ว่าจะเป็น BNB Chain, Ethereum, Avalanche, TomoChain, Fantom, BNB Chain TEST NET, Ropsten และ Matic นอกจากนี้ยังรวมไปถึงการถูกสร้างขึ้นเพื่อรองรับโซลูชันแบบ end-to-end ที่ครอบคลุมคุณลักษณะทั้งหมดของ Metamask wallet อีกด้วย

    MORE ARTICLES

    0 Comment