×

START A PROJECT

We are here to build a high-quality extension for brands to serve your consumers.

    By HOCCO - 26 มิถุนายน 2024

    User Interface คืออะไร ต่างจาก UX ยังไง ดูวิธีวางแผนทำ UI เว็บไวต์


    ปัจจุบันที่เทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของทุกคน โดยเฉพาะในวัยรุ่น วัยทำงาน จนไปถึงวัยกลางคน ที่ต้องปรับตัวตามเทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ได้รับการพัฒนาอยู่เสมอ เพื่อให้การเรียนและการทำงานมีประสิทธิภาพมากที่สุด และสิ่งสำคัญที่ทำให้มนุษย์สามารถเชื่อมโยงกับเทคโนโลยีได้อย่างอิสระ ได้แก่ โทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ ซึ่งเราสามารถควบคุมสิ่งต่าง ๆ ผ่านทางหน้าจอโทรศัพท์มือถือ หรือ คอมพิวเตอร์ สิ่งนี้เรียกว่า หน้าจอผู้ใช้งาน หรือ User Interface (UI) นั้นเอง

    วันนี้ผมจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ User Interface คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร ทำไมใคร ๆ ก็ต่างพูดถึง พร้อมทั้งไขข้อข้องใจว่า UX และ UI แตกต่างกันอย่างไร ? ลองคนหาคำตอบที่คุณสงสัยในบทความนี้!

    User Interface (UI) คือ

    User Interface หรือ ส่วนต่อประสานกับผู้ใช้งาน คือ องค์ประกอบและระบบที่ถูกออกแบบมาให้ User สามารถโต้ตอบกับอุปกรณ์ หรือ ซอฟต์แวร์ ได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะเน้นไปที่เรื่องของการดีไซน์ดูร่างหน้าตา การออกแบบ และปัจจัยที่ส่งผลโดยตรงต่อประสบการณ์ของ User เป็นหลัก เช่น หน้าจอ เมนู การวางภาพ ขนาดตัวอักษร ฟ้อนตัวอักษร สี ปุ่ม ไอคอน รวมไปถึงเสียงและแสงไฟ โดยออกแบบมาให้ User สามารถใช้งานง่ายและน่าสนใจ

    การทำ User Interface ที่ดี คือ การออกแบบที่เหมาะสม ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป และ ช่วยให้ User สามารถเข้าถึงสินค้าหรือบริการที่ต้องการได้ง่าย นอกจากนี้ต้องไม่ลืมที่จะคำนึกถึงความสวยงาม และ Branding ของสินค้าและบริการอีกด้วย

    ความสำคัญของการทำ User Interface 


    หลายบริษัทให้ความสำคัญกับการทำ User Interface กันมากขึ้น เพราะส่งผลโดยตรงต่อประสบการณ์และอารมณ์ขอผู้ใช้ และ ประสิทธิภาพการใช้งานระบบหรือซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ซึ่งสามารถจำแนกประโยชน์ของการทำ User Interface ได้ดังนี้

     1. การออกแบบ User Interface ที่ดี คือ การเพิ่มประสิทธิภาพในใช้งาน ช่วยให้ User เข้าถึงข้อมูลและแฟลตฟอร์มต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว ลดความซับซ้อนในการใช้งาน

     2. การออกแบบ User Interface ที่ดี ช่วยให้ประหยัดเวลา สร้างความพึงพอใจให้กับ User โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคู่มือหรือการฝึกอบรม

     3. ทำให้ User กลับมาใช้งานอีกครั้ง เพราะความรู้สึกพึงพอใจในการใช้งาน เช่น ความรวดเร็ว ใช้งานง่าย สะดวก มีประสิทธิภาพและแม่นยำ

     4. User Interface ช่วยลดโอกาสในการเกิดข้อผิดพลาดจากการใช้งาน เนื่องจากการทำ User Interface มีการวิเคราะห์ ออกแบบ และจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ ที่เหมาะสม

     5. User Interface สามารถช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความเป็นมืออาชีพ ซึ่งช่วยสร้างความประทับใจให้กับผู้ใช้งาน ส่งผลให้ผู้ใช้งานเกิดความเชื่อมั่นในสินค้าและบริการของแบรนด์

     6. การมี User Interface ที่ใช้งานง่ายและน่าสนใจเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน ทำให้สินค้าและบริการโดดเด่นกว่าคู่แข่ง

     7. User Interface ที่คำนึกถึงการเข้าถึงของผู้ใช้งานทุกกลุ่มรวมถึงผู้ที่มีความบกพร่องทางกาย ช่วยให้ทุกคนสามารถใช้ระบบได้อย่างเท่าเทียม

    ดังนั้นการออกแบบ UI ที่ดี ไม่ใช่เพียงแค่การออกแบบที่สวยงาม ดูดี แต่ต้องคำนึกถึงการใช้งานจริงของ User เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้ใช้งาน

    ขั้นตอนการออกแบบ User Interface

    ขั้นตอนการออกแบบ User Interface คือขั้นตอนที่ต้องคำนึงถึงความต้องการจองผู้ใช้งานและประสบการณ์ในการใช้งาน (User Experience , UX) เป็นหลัก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยขั้นตอนการออกแบบ User Interface มีดังนี้

     1. วิเคราะห์และทำความเข้าใจผู้ใช้งาน (User Research and Understanding)

    ขั้นตอนแรกจะเริ่มจากการเก็บรวบรวมข้อมูลผู้ใช้ผ่านการสัมภาษณ์ แบบสอบถาม และการสังเกตการใช้งานจริง เพื่อให้เข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของผู้ใข้งาน แล้วจึงสร้าง Persona เพื่อใช้เป็นแนวทางในการออกแบบ

     2. กำหนดความต้องการและวางแผน (Requirements and Planning)

    ต่อมาเป็นการตั้งวัตถุประสงค์จองการออกแบบ User Interface ให้ตรงกับเป้าหมายของผู้ใช้งานและธุรกิจ พร้อมทั้งสร้าง User Stories มองมุมมองจากผู้ใช้งานจริง เพื่อช่วยในการวางแผนและออกแบบ

     3. ออกแบบโครงร่าง (Wireframing and Prototyping)

    ขั้นตอนนี้เป็นการวาดโครงร่างและลองจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เมนู ข้อมูล ฟอร์ม รูปภาพ และปุ่มต่าง ๆ เพื่อให้ดีไซน์เนอร์เห็นภาพรวมของการออกแบบ พร้อมทั้งทดลองสร้าง Prototype ที่มีการโต้ตอบได้ เพื่อทดสอบการใช้งานและรับฟังความคิดเห็นจากู้ใช้

     4. ออกแบบกราฟิก (Visual Design)

    ขั้นตอนนี้ คือ หนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญของการทำ User Interface เป็นการออกแบบไอคอน องค์ประกอบกราฟิก ฟ้อนตัวอักษร ขนาด และสี ให้สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ โดยต้องคำนึกถึงแบรนด์และการใช้งานจริงด้วย

     5. ทดสอบและปรับปรุง (Testing and Iteration)

    การทดสอบจะช่วยให้ทราบถึงปัญหาและข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น เมื่อทราบถึงปัญหาแล้วจึงนำมาปรับปรุงการออกแบบบตามผลการทดสอบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

     6. เปิดตัวใช้งานและดูแลรักษา (Launch and Maintenance)

    หลังจากที่ได้มีการปรับปรุงดีไซน์ต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ หรือ ระบบ และหลังจากที่มีการเปิดตัวไปแล้ว จำเป็นที่จะต้องคอยเก็บจ้อมูลการใช้งานและความคิดเห็นจากผู้มช้งานเพื่อนำไปปรับปรุง UI อย่างต่อเนื่อง

    ตอบคำถาม! UX vs UI แตกต่างกันยังไง


    หลายคนมักจะเกิดคำถามว่าแล้ว UX กับ UI คืออะไร แตกต่างกันยังไง ? จริง ๆ แล้วทั้ง UX และ UI เป็นการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ดิจิทัล ที่มีความสัมพันธ์กัน ถ้าให้อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ

    User Experience (UX) คือ การให้ความสำคัญกับอารมณ์ ความคิดเห็น และความรู้สึกของผู้ใช้งาน

    User Interface (UI) คือ การให้ความสำคัญกับการออกแบบดีไซน์ ความสวยงาม ความสะดวกสบาย ในการใช้งานเป็นหลัก

    ยกตัวอย่าง เช่นการออกแบบ เว็บไซต์ขายตั๋วคอนเสิร์ต ให้คุณลองนึกภาพว่าคุณเข้าไปที่เว็บไซต์ สิ่งแรกคุณจะเห็นการออกแบบที่สวย สะดุดตา สีสัน และฟ้อนต์ต่าง ๆ มีระเบียบดูแล้วอ่านง่าย ส่วนนี้ คือ UI ในขณะที่เนื้อหาและรายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ เช่น มีคอนเสิร์ตของวงอะไรบ้าง รูปผังเป็นยังไง วิธีการกดสั่งซื้อยากง่ายมากน้อยแค่ไหน ในส่วนนี้จะเป็นพาร์ทของ UX นั้นเองครับ

    สรุป

    หลายคนน่าจะเข้าใจกันแล้วใช่ไหมครับว่า User Interface (UI) คืออะไร และแตกต่างจาก UX อย่างไร สิ่งที่คำสัญที่สุดของการทำ User Interface คือ ดีไซน์เนอร์ต้องคำนึกถึงความสวยงามและการใช้งานที่ง่าย สะดวก ลดขั้นตอนที่ซับซ้อนลง เพื่อให้ User เกิดความประทับใจและกลับมาใช้งานซ้ำอีกครั้ง นอกจากนี้การทำ User Interface ที่ดียังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่แบรนด์ได้อีกด้วยครับ

    , UX) เป็นหลัก เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด โดยขั้นตอนการออกแบบ User Interface มีดังนี้

     7. วิเคราะห์และทำความเข้าใจผู้ใช้งาน (User Research and Understanding)

    ขั้นตอนแรกจะเริ่มจากการเก็บรวบรวมข้อมูลผู้ใช้ผ่านการสัมภาษณ์ แบบสอบถาม และการสังเกตการณ์ใช้งานจริง เพื่อให้เข้าใจความต้องการและพฤติกรรมของผู้ใช้งาน แล้วจึงสร้าง Customer Persona เพื่อใช้เป็นแนวทางในการออกแบบ

     8. กำหนดความต้องการและวางแผน (Requirements and Planning)

    ต่อมาเป็นการตั้งวัตถุประสงค์จองการออกแบบ User Interface ให้ตรงกับเป้าหมายของผู้ใช้งานและธุรกิจ พร้อมทั้งสร้าง User Stories มองมุมมองจากผู้ใช้งานจริง เพื่อช่วยในการวางแผนและออกแบบ

     9. ออกแบบโครงร่าง (Wireframing and Prototyping)

    ขั้นตอนนี้เป็นการวาดโครงร่างและลองจัดวางองค์ประกอบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เมนู ข้อมูล ฟอร์ม รูปภาพ และปุ่มต่าง ๆ เพื่อให้ดีไซเนอร์เห็นภาพรวมของการออกแบบ พร้อมทั้งทดลองสร้าง Prototype ที่มีการโต้ตอบได้ เพื่อทดสอบการใช้งานและรับฟังความคิดเห็นจากู้ใช้

     10. ออกแบบกราฟิก (Visual Design)

    ขั้นตอนนี้ คือ หนึ่งในขั้นตอนที่สำคัญของการทำ User Interface เป็นการออกแบบไอคอน องค์ประกอบกราฟิก ฟอนต์ตัวอักษร ขนาด และสี ให้สอดคล้องกับผลิตภัณฑ์ โดยต้องคำนึกถึงแบรนด์และการใช้งานจริงด้วย

     11. ทดสอบและปรับปรุง (Testing and Iteration)

    การทดสอบจะช่วยให้ทราบถึงปัญหาและข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น เมื่อทราบถึงปัญหาแล้วจึงนำมาปรับปรุงการออกแบบตามผลการทดสอบ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

     12. เปิดตัวใช้งานและดูแลรักษา (Launch and Maintenance)

    หลังจากที่ได้มีการปรับปรุงดีไซน์ต่าง ๆ เรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาที่จะทำการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ หรือ ระบบ และหลังจากที่มีการเปิดตัวไปแล้ว จำเป็นที่จะต้องคอยเก็บข้อมูลการใช้งานและความคิดเห็นจากผู้ใช้งานเพื่อนำไปปรับปรุง UI อย่างต่อเนื่อง

    ตอบคำถาม! UX vs UI แตกต่างกันยังไง

    หลายคนมักจะเกิดคำถามว่าแล้ว UX กับ UI คืออะไร แตกต่างกันยังไง ? จริง ๆ แล้วทั้ง UX และ UI เป็นการออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ดิจิทัล ที่มีความสัมพันธ์กัน ถ้าให้อธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ

    User Experience (UX) คือ การให้ความสำคัญกับอารมณ์ ความคิดเห็น และความรู้สึกของผู้ใช้งาน

    User Interface (UI) คือ การให้ความสำคัญกับการออกแบบดีไซน์ ความสวยงาม ความสะดวกสบาย ในการใช้งานเป็นหลัก

    ยกตัวอย่าง เช่น เว็บไซต์ขายตั๋วคอนเสิร์ต ให้คุณลองนึกภาพว่าคุณเข้าไปที่เว็บไซต์คุณจะเห็นการออกแบบที่สวย สะดุดตา สีสัน และฟอนต์ต่าง ๆ มีระเบียบดูแล้วอ่านง่าย ส่วนนี้ คือ UI ในขณะที่เนื้อหาและรายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ เช่น มีคอนเสิร์ตของวงอะไรบ้าง รูปผังเป็นยังไง วิธีการกดสั่งซื้อยากง่ายมากน้อยแค่ไหน ในส่วนนี้จะเป็นพาร์ทของ UX นั้นเองครับ

    สรุป

    หลายคนน่าจะเข้าใจกันแล้วใช่ไหมครับว่า User Interface (UI) คืออะไร และแตกต่างจาก UX อย่างไร สิ่งที่สำคัญที่สุดของการทำ User Interface คือ ดีไซเนอร์ต้องคำนึกถึงความสวยงามและการใช้งานที่ง่าย สะดวก ลดขั้นตอนที่ซับซ้อนลง เพื่อให้ User เกิดความประทับใจและกลับมาใช้งานซ้ำอีกครั้ง นอกจากนี้การทำ User Interface ที่ดียังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่แบรนด์ได้อีกด้วยครับ 

    MORE ARTICLES

    22.03.2021

    08.03.2021

    0 Comment