1. ChatGPT (OpenAI)
ChatGPT เป็นหนึ่งใน AI ผู้ช่วยอัจฉริยะที่สามารถตอบคำถาม คิดไอเดีย สร้างเนื้อหา วิเคราะห์ข้อมูล และ ช่วยแก้ปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว เป็นเหมือนคู่หูดิจิทัล ที่ช่วยให้ชีวิตและการทำงานง่ายขึ้น
ข้อดี
● ตอบคำถามได้หลากหลาย ทั้งความรู้ทั่วไป คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และอื่นๆ
● ช่วยสร้างสรรค์เนื้อหา ไม่ว่าจะเป็น เขียนบทความ รายงาน บทสนทนา โค้ดโปรแกรม
● ช่วยวิเคราะห์ข้อมูล & คิดไอเดีย ซึ่งเหมาะสำหรับนักเขียน นักธุรกิจ นักเรียน
● สามารถจำลองบทสนทนาแบบเป็นธรรมชาติเหมือนคุยกับมนุษย์
2.Google Assistant คืออะไร
ผู้ช่วยอัจฉริยะ (AI Assistant) ที่พัฒนาโดย Google ทำหน้าที่ช่วยตอบคำถาม ควบคุมอุปกรณ์อัจฉริยะ และช่วยจัดการงานต่างๆ ผ่านคำสั่งเสียงหรือข้อความ สามารถใช้งานได้บนสมาร์ทโฟน (Android และ iOS), สมาร์ทโฮม (Google Nest), สมาร์ทวอทช์ และอุปกรณ์อื่นๆ โดยสามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ และเชื่อมต่อกับบริการของ Google ได้
ข้อดี
● รองรับคำสั่งเสียงและข้อความ สามารถสั่งงานได้ง่ายๆ แค่พูดว่า “Hey Google” หรือ “OK Google”
● ควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮม เช่น เปิด-ปิดไฟ ปรับอุณหภูมิแอร์ ควบคุมลำโพงอัจฉริยะ
● ช่วยจัดการงานประจำวัน ไม่ว่าจะเป็น ตั้งปลุก บันทึกโน้ต เตือนความจำ หรือจองตั๋วเครื่องบิน
● แปลภาษาได้ทันที และรองรับมากกว่า 40 ภาษา รวมถึงภาษาไทย
3. Siri (Apple)
ผู้ช่วยอัจฉริยะ (AI Assistant) ของ Apple ที่ทำงานด้วยคำสั่งเสียง ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ ทำงานต่างๆ ได้สะดวกขึ้น โดยไม่ต้องใช้มือสามารถตอบคำถาม ควบคุมอุปกรณ์ของ Apple และทำงานหลายอย่าง เช่น ตั้งปลุก ส่งข้อความ โทรออก เปิดแอป ฯลฯ เพียงแค่ใช้เสียงสั่งงาน
ข้อดี
● ใช้งานง่าย สามารถสั่งงานได้ด้วยคำสั่งเสียงเช่น "Hey Siri"
● ตั้งเตือนความจำและจัดการงานต่างๆ
● การแปลภาษา Siri สามารถแปลคำหรือประโยคระหว่างหลายภาษา
● รองรับหลายภาษา โดยรองรับภาษาไทยและหลายภาษาทั่วโลก
● ช่วยในการค้นหาข้อมูล ตอบคำถามทั่วไป แสดงข้อมูลจากเว็บ ส่งข้อความ โทรออก
4. Nation AI
Notion AI คือ AI Application ที่พัฒนาโดย Notion Labs ซึ่งทำงานร่วมกับ Notion แอปพลิเคชันสำหรับการจดบันทึก การจัดระเบียบข้อมูล โดย Notion AI ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยในการ สร้างเนื้อหา และ ทำงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการข้อมูล ให้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Notion AI ใช้เทคโนโลยี AI ในการช่วยผู้ใช้ สร้างบันทึก เขียนบทความ สรุปข้อมูล แปลภาษา และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการข้อมูลต่างๆ ภายใน Notion ซึ่งช่วยให้การทำงานและการสร้างเนื้อหาดูมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยไม่ต้องเริ่มจากศูนย์
ข้อดี
● ช่วยสร้างเนื้อหาสำหรับบันทึก บทความ หรือเอกสารต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
● สามารถสรุปข้อมูลจากข้อความที่ยาวเกินไปให้สั้นและเข้าใจง่าย
● ใช้ AI ในการค้นหาและจัดระเบียบข้อมูลที่เกี่ยวข้องใน Notion
● ตั้งคำถามและให้ Notion AI สร้างข้อความหรือคำอธิบายตามคำสั่ง
5. Grammarly
Grammarly เป็นหนึ่งในเครื่องมือช่วยตรวจสอบแกรมม่าภาษาอังกฤษที่ใช้ AI ในการช่วยปรับปรุงความถูกต้องและความชัดเจนของการเขียน ช่วยตรวจหาข้อผิดพลาดต่างๆ ในการเขียน เช่น ไวยากรณ์ (grammar) การสะกดคำ (spelling) การใช้เครื่องหมายวรรคตอน (punctuation) และการเลือกใช้คำ (word choice)
ซึ่ง Grammarly รองรับการใช้งานผ่านเบราว์เซอร์ (มีส่วนขยายสำหรับ Chrome, Firefox, Edge), แอปพลิเคชันเดสก์ท็อป และ แอปพลิเคชันมือถือ รวมทั้งสามารถใช้ใน Microsoft Word และ Google Docs ได้เช่นกัน โดยมีทั้ง เวอร์ชันฟรี และ เวอร์ชันพรีเมียม ที่มีฟีเจอร์เสริมมากขึ้น
ข้อดี
● ช่วยตรวจสอบการสะกดคำและไวยากรณ์ในบทความที่เขียน
● ช่วยให้ข้อความในอีเมลดูเป็นทางการและถูกต้องตามหลักไวยากรณ์
● ช่วยแนะนำการใช้คำและไวยากรณ์ในการเขียนรายงานที่สมบูรณ์แบบ
6. Otter.ai
Otter.ai คือ เครื่องมือบันทึกเสียงและแปลงเสียงเป็นข้อความ (Transcription) ที่ใช้ AI เพื่อช่วยในการ แปลงเสียงพูดเป็นข้อความ นอกจากนี้ยังสามารถจัดระเบียบการบันทึก สรุปเนื้อหา และแชร์ข้อความได้ ซึ่ง Otter.ai สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในงานต่างๆ เช่น การบันทึกการประชุม การสัมภาษณ์ การบรรยาย หรือการประชุมทางโทรศัพท์ เพื่อช่วยให้คุณสามารถ บันทึกข้อมูล และ เข้าถึงข้อมูลจากเสียงได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ที่ช่วยให้คุณ ค้นหา หรือ จัดการข้อมูล จากข้อความที่ได้จากการแปลงเสียงได้ดีมากขึ้น
ข้อดี
● แปลงเสียงเป็นข้อความได้อย่างแม่นยำ
● รองรับหลายภาษา
● ผู้ใช้สามารถแชร์ข้อความที่แปลงจากเสียงให้กับทีมงานหรือบุคคลอื่นได้ง่ายดาย
● มีฟีเจอร์ในการค้นหาคำหรือประโยคที่สำคัญในข้อความที่ได้จากการแปลงเสียง
● รองรับการทำงานร่วมกับแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Zoom, Google Meet, Microsoft Teams และแพลตฟอร์มอื่นๆ
● สามารถแยกเสียงจากผู้พูดหลายคนได้ โดยสามารถระบุชื่อผู้พูดและแสดงข้อมูลในข้อความแยกตามบุคคล
● สามารถใช้ในการแทรกคำบรรยายในวิดีโอต่างๆ โดยอัตโนมัติ
7. Canva AI
Canva AI ใช้เทคโนโลยี AI เพื่อช่วยผู้ใช้ในการออกแบบอัตโนมัติ เช่น การแนะนำเทมเพลต การปรับแต่งรูปภาพ การเลือกสี การจัดวางข้อความ และ การปรับขนาดงานออกแบบ ได้อย่างง่ายดาย ด้วยฟีเจอร์ที่หลากหลายและง่ายต่อการใช้งาน ทำให้ Canva กลายเป็นเครื่องมือยอดนิยมในการสร้างงานออกแบบสวยๆ ได้ในเวลาอันรวดเร็ว
ข้อดี
● สามารถแนะนำเทมเพลตที่เหมาะสมกับการออกแบบของคุณโดยอัตโนมัติ
● ฟีเจอร์ AI สามารถปรับแสง คอนทราสต์ และสีของภาพได้อย่างรวดเร็ว
● ช่วยเลือกสีที่เหมาะสมและฟอนต์ที่ทำให้การออกแบบดูมืออาชีพ
●แปลงข้อความของคุณให้กลายเป็นกราฟิก
●สามารถปรับขนาดงานออกแบบให้เหมาะสมกับแพลตฟอร์มต่างๆ เช่น Instagram Facebook หรือการพิมพ์โปสเตอร์
8. Runway ML
คือ AI Application ที่ใช้ AI ในการสร้างและปรับแต่งเนื้อหาหรือสื่อดิจิทัล เช่น วิดีโอ รูปภาพ เสียง และ ข้อความ โดยใช้ โมเดล AI ที่พัฒนาโดยวิจัยจากต่างประเทศและชุมชนผู้พัฒนา AI ทำให้ผู้ใช้สามารถนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการ สร้างสรรค์งานครีเอทีฟ โดยไม่จำเป็นต้องมีความรู้ด้านการเขียนโค้ดหรือโปรแกรมมิ่งเลย
ข้อดี
● ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้าง วิดีโอ ภาพ และเสียง ได้ด้วยเทคโนโลยี AI
● การใช้งานง่ายสำหรับผู้เริ่มต้น
● รองรับการทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์อื่นๆ อย่าง Adobe Premiere Pro, Photoshop, Final Cut Pro และซอฟต์แวร์อื่นๆ ได้
● มีฟีเจอร์ที่ช่วยในการ ตัดต่อวิดีโอโดยอัตโนมัติ และสามารถใช้ AI ในการเลือกฉากสำคัญจากวิดีโอ
9. Remove.bg
เป็นเครื่องมือที่ใช้ AI ในการลบพื้นหลังจากภาพ โดยอัตโนมัติ ทำให้ผู้ใช้สามารถ แยกวัตถุในภาพ ออกจากพื้นหลังได้ง่ายและรวดเร็ว เพียงแค่ อัพโหลดรูปภาพ ระบบจะทำการประมวลผลและลบพื้นหลังออกจากภาพในไม่กี่วินาที ซึ่งเหมาะสำหรับ นักออกแบบกราฟิก นักการตลาด หรือ ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับสื่อดิจิทัล ที่ต้องการปรับแต่งภาพโดยไม่ต้องใช้เครื่องมือที่ซับซ้อนอย่าง Photoshop
ข้อดี
● ลบพื้นหลังได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ
● ใช้งานง่าย
● รองรับหลากหลายประเภทของภาพ
● เครื่องมือที่เหมาะสำหรับการใช้งานเชิงพาณิชย์
● รองรับการใช้งานผ่าน API
10 FaceApp
AI Application ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการปรับแต่งและเปลี่ยนแปลงลักษณะใบหน้าภายในภาพถ่าย แอปนี้สามารถใช้ในการ ปรับอายุ เปลี่ยนเพศ แต่งหน้า หรือเปลี่ยนทรงผม ได้อย่างสมจริง เพียงแค่ใช้ภาพถ่ายใบหน้าของคุณหรือคนอื่นแค่ไม่กี่วินาที คุณก็สามารถเห็นการเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่งได้ทันที โดยFaceApp ใช้เทคโนโลยี Deep Learning ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ AI เพื่อจำลองการเปลี่ยนแปลงใบหน้าในหลายๆ รูปแบบ
ข้อดี
● ใช้งานง่ายเพียงแค่เลือกหรืออัปโหลดภาพที่ต้องการ จากนั้นแอปจะทำการประมวลผลและให้ผลลัพธ์ภายในไม่กี่วินาที
11. Lensa AI
Lensa AI คือ AI Application ที่ใช้ในการปรับแต่งและแก้ไขภาพถ่าย โดยเฉพาะภาพถ่ายใบหน้า แอปนี้ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย เนื่องจากสามารถปรับปรุงคุณภาพภาพ และ สร้างเอฟเฟกต์ที่น่าสนใจ อย่างเช่น การแต่งหน้า การทำให้ผิวเนียน การเปลี่ยนแปลงแสงและสี หรือแม้แต่การเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตัวแบบอย่างสมจริง
ข้อดี
แอปใช้งานง่ายและไม่ต้องมีทักษะการตัดต่อภาพขั้นสูง เพียงแค่เลือกรูปภาพและเลือกฟีเจอร์ที่ต้องการ
Lensa AI มีฟีเจอร์ในการแปลงภาพถ่ายเป็น ภาพศิลปะหรือสไตล์แฟชั่น ที่ทำให้ภาพดูทันสมัยและน่าสนใจ
12. Tableau AI
Tableau AI คือฟีเจอร์ที่ใช้ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ข้อมูล และ สร้างภาพข้อมูล จากข้อมูลที่มีอยู่ใน Tableau ซึ่งเป็นเครื่องมือ Business Intelligence (BI) ที่ได้รับความนิยมในด้านการวิเคราะห์และการสร้างกราฟ/แผนภูมิจากข้อมูลต่างๆ โดยที่ Tableau AI จะช่วยให้การวิเคราะห์ข้อมูลและการตัดสินใจทางธุรกิจทำได้เร็วขึ้นและมีความแม่นยำมากขึ้นผ่านการใช้ Machine Learning และ การคาดการณ์
Tableau AI ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าใจข้อมูลได้ดีขึ้น ผ่านการวิเคราะห์ที่ซับซ้อน เช่น การทำนายแนวโน้ม การคาดการณ์ข้อมูลในอนาคต หรือการค้นหาความสัมพันธ์ในข้อมูลที่อาจมองไม่เห็นได้โดยง่ายในแบบดั้งเดิม
ข้อดี
● คาดการณ์ข้อมูล เพื่อคาดการณ์แนวโน้ม เช่น ยอดขายในอนาคต หรือผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ
● สามารถให้คำแนะนำหรือการวิเคราะห์อัตโนมัติจากข้อมูล โดยไม่ต้องพึ่งพาผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูลในการสร้างแผนภูมิหรือกราฟ
● ใช้งานง่าย และมี อินเตอร์เฟซที่ใช้งานสะดวก ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงและใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ ได้โดยไม่ต้องมีความรู้ด้านเทคนิคมาก
● สามารถเชื่อมโยงกับแหล่งข้อมูลหลายประเภท เช่น ฐานข้อมูล, ไฟล์ CSV, Excel, Salesforce, หรือแหล่งข้อมูลออนไลน์อื่นๆ เพื่อสร้างภาพข้อมูลที่สมบูรณ์และมีประสิทธิภาพ
13. ChatGPT Code Interpreter
ChatGPT Code Interpreter หรือที่เรียกกันว่า Advanced Data Analysis (ADA) เป็นฟีเจอร์ใน ChatGPT ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถ เขียนและทดสอบโค้ด หรือ วิเคราะห์ข้อมูล ได้โดยตรงภายในแชท ใช้เครื่องมือประมวลผลข้อมูล และ รันโค้ด เพื่อให้คำตอบเชิงลึกเกี่ยวกับการคำนวณ การวิเคราะห์ข้อมูล หรือการสร้างกราฟต่างๆ โดยอัตโนมัติ
ฟีเจอร์นี้นิยมใช้งานกันอย่างกว้างขวาง เช่น การช่วยให้ผู้ใช้เขียน โค้ดในภาษาโปรแกรมต่างๆ (เช่น Python, R, JavaScript) และสามารถ ทดสอบโค้ดได้ทันที โดยไม่ต้องไปใช้เครื่องมือภายนอก
ข้อดี
● สามารถประมวลผลโค้ดได้ทันที
● รองรับการทำงานกับข้อมูลขนาดใหญ่
● รองรับการคำนวณที่ซับซ้อน เช่น การคำนวณเชิงสถิติ การวิเคราะห์ข้อมูล หรือ การแก้สมการทางคณิตศาสตร์
● รองรับหลายภาษาโปรแกรม เช่น Python, JavaScript, SQL และอื่นๆ
● ใช้งานง่ายและไม่ต้องตั้งค่าอะไร
14. Shopify AI
Shopify AI เป็น AI Application ที่ใช้ AI ภายในแพลตฟอร์ม Shopify ช่วยในการปรับปรุงการดำเนินธุรกิจออนไลน์ ให้มีประสิทธิภาพและมีความแม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการทำการตลาดออนไลน์ การจัดการสต็อกสินค้า การแนะนำผลิตภัณฑ์ และ การดูแลลูกค้า ซึ่งฟีเจอร์ AI ของ Shopify ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นสำหรับลูกค้าและทำให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อดี
● แนะนำสินค้าที่เหมาะสมกับลูกค้า โดยดูจากพฤติกรรมการช็อปปิ้ง ประวัติการค้นหาของลูกค้า หรือข้อมูลจากการซื้อสินค้าก่อนหน้านี้ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการขายสินค้า
● สามารถทำการวิเคราะห์ พฤติกรรมการซื้อ ของลูกค้าและแนะนำกลยุทธ์การตลาดหรือการโปรโมทสินค้าได้อย่างเหมาะสม
● สามารถช่วยคาดการณ์และ ติดตามสินค้าคงคลัง ได้อย่างแม่นยำ
● Shopify AI ช่วยในเรื่องของ การสนับสนุนลูกค้า ผ่าน Chatbots
● ออกแบบแคมเปญการตลาด ที่เหมาะสมสำหรับแต่ละลูกค้า โดยการเลือกใช้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมการช็อปปิ้ง
15. Amazon Alexa
ผู้ช่วยเสียงดิจิทัล (Digital Assistant) ที่พัฒนาโดย Amazon ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อให้ผู้ใช้สามารถควบคุมอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านเสียง โดย Alexa สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์ที่รองรับ เช่น ลำโพงอัจฉริยะ (เช่น Amazon Echo) สมาร์ทโฟน ทีวี อุปกรณ์สมาร์ทโฮม และอื่นๆ เพื่อช่วยให้ชีวิตประจำวันสะดวกและง่ายขึ้น
ข้อดี
● สามารถควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮมผ่านคำสั่งเสียง
● สามารถตั้ง เตือนความจำ, นาฬิกาปลุก, จัดการปฏิทิน และ แสดงข้อมูลต่างๆ
● รองรับหลายภาษา
● สามารถฟังคำสั่งเสียงหลายคำในระยะเวลาสั้นๆ และตอบกลับได้อย่างแม่นยำ
ปัจจุบัน AI Application กลายเป็นเทคโนโลยีที่น่าจับตามองและมีประโยชน์มากมาย เพราะช่วยให้การทำงานและการใช้ชีวิตประจำวันง่ายขึ้น ทั้งนี้ถ้าหากคุณได้ลองใช้ 15 AI Application ที่ได้แนะนำนำไปข้างต้นตัวไหนกันบ้างแล้ว สามารถแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเทคนิคการใช้งานที่น่าสนใจกันได้ครับ
0 Comment