ยิ่งเทคโนโลยีก้าวกระโดดมากขึ้นเท่าไหร่ ความสำคัญของคนในสายอาชีพไอทีต่อองค์กรต่าง ๆ ก็ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น ทว่า การจ้างพวกเขาเอาไว้เป็นจำนวนมากในฐานะพนักงานประจำ ก็เป็นค่าใช้จ่ายที่มากสำหรับองค์กรเหล่านั้นด้วยเช่นกัน ทั้งในแง่ของเงินเดือนที่ค่อนข้างสูง และสวัสดิการต่าง ๆ ที่ต้องเสริมเข้าไปให้ จึงเป็นเหตุทำให้ Outsource IT กลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจของผู้ประกอบการต่าง ๆ ที่แบกรับภาระค่าใช้จ่ายตรงนั้นในระยะยาวไม่ไหวนั่นเอง
Outsource IT เทรนด์การจ้างผู้เชี่ยวชาญแนวใหม่ที่กำลังมาแรง
Outsource IT คือ พนักงานจากภายนอกองค์กร ที่จ้างมาเพื่อทำงานขององค์กรในด้าน IT โดยเฉพาะ ซึ่งจะเป็นรูปแบบของ Outsourcing ที่ได้รับความนิยมมาก เพราะส่วนมากแล้ว การทำงานด้าน IT นี้ มักจะมาในลักษณะของ Project ที่มีการทำงานระยะเวลาสั้น ๆ โดยประมาณ 3 เดือน 6 เดือน หรือ 12 เดือน ขึ้นอยู่กับ Project Owner เป็นหลัก
โดยตำแหน่งงานด้าน Outsource IT มีหลายหน้าที่ และหลายตำแหน่งงาน เช่น
- Developer (นักพัฒนาซอฟต์แวร์)
- Data Analyst
- Helpdesk
- Tester
และส่วนมากแล้ว จะขึ้นอยู่กับ Project นั้น ๆ ว่าขาดตำแหน่งอะไร หรือมีความจำเป็นจะต้องใช้ตำแหน่งอะไรเป็นพิเศษ
ซึ่งการทำงานของ Outsource IT จะมีหน้าที่รับผิดชอบงานตาม Project ที่องค์กรเจ้าของ Project เป็นผู้กำหนดขึ้น เช่น พัฒนาซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูล, พัฒนาโปรแกรม, วิเคราะห์ข้อมูล Big Data ฯลฯ โดย Outsource IT จะได้รับมอบหมายงาน ในการดูแลระบบเครือข่าย และซอฟต์แวร์ภายในองค์กรของผู้จ้าง แต่การดูแลสัญญา หรือดูแลสิทธิของพนักงานจะเป็นของ ต้นสังกัด Outsourcing ที่จะเป็นผู้ดูแล และเป็นคนกลางเจรจาต่อรองกับลูกค้า หรือองค์กรที่ว่าจ้าง พนักงาน Outsource IT และระยะเวลาของสัญญาจ้างงาน จะขึ้นอยู่กับ Project หรือเนื้อหาของงานนั้น ๆ ซึ่งเมื่อจบ Project แล้ว อาจจะมีการโยกย้ายตำแหน่งเพื่อไปทำงานภายในองค์กรอื่น หรือต่อสัญญาเพื่อทำงานในที่เดิม และอาจจะได้ปรับเป็นพนักงานประจำก็เป็นได้เช่นกัน
เพราะอะไร องค์กรถึงควรจ้าง Outsource IT ในการทำงาน
สำหรับบางองค์กร การจ้างพนักงาน IT ประจำยังเป็นทางเลือกหลักด้วยเหตุผลต่าง ๆ เช่น ความเคยชิน คุ้นชิน ความรู้สึกสะดวก หรือเพื่อรักษาความลับขององค์กร เพราะเชื่อว่าคนในย่อมรักษาความลับได้ดีกว่าคนนอก หากเหตุผลการจ้างพนักงานประจำมีเพียงเพราะเรื่องการรักษาความลับ จากข้อมูลจากรายงานของ IBM ซึ่งเผยว่า 80 เปอร์เซ็นต์ของบัญชีพนักงานประจำที่ถูกโจรกรรม หรือสวมรอยนั้น สามารถนำไปสู่เหตุการณ์ข้อมูลรั่วไหล และสร้างความเสียหายมูลค่ามหาศาลให้กับองค์กรได้ ถึงตรงนี้แล้ว เหตุผลที่ว่าคนในย่อมรักษาความลับได้ดีกว่าคนนอกอาจหยิบยกมาใช้ได้ยาก
ในทางกลับกัน มาตรฐานของบริการ Outsource IT ที่นอกจากจะมีการตั้งขอบเขตงาน และมาตรฐานต่าง ๆ ที่ลูกค้าจะได้รับแล้ว ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของความพร้อมในการอำนวยความสะดวกอย่างรวดเร็ว ความครอบคลุม ความเชี่ยวชาญ และที่สำคัญ คือมีประกันการรักษาความลับ หรือความปลอดภัยของข้อมูลองค์กรอย่างเข้มงวด ดังนั้นจึงไม่แปลกเลย หากองค์กรยุคใหม่หลาย ๆ แห่ง หรือองค์กรที่เริ่มเห็นความสำคัญของงบประมาณการจัดจ้าง และข้อมูลสำคัญ ๆ ขององค์กร จะหันมาใช้บริการ Outsource IT แทนพนักงานประจำที่มีอยู่เดิมแทน
รวมข้อดีของการจ้าง Outsource IT
1. ยืดหยุ่นในการจ้างพนักงาน
การใช้บริการ Outsource IT จะช่วยให้บริษัทสามารถเพิ่มลดจำนวนพนักงาน IT ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องเฉพาะได้เท่าที่ต้องการ ดังนั้น จำนวนพนักงาน IT ของบริษัทจะสามารถถูกปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมได้ความต้องการของธุรกิจ ภายใต้สัญญาที่ทำไว้ เพราะบริษัทสามารถเลือกได้ว่าจะจ้าง หรือไม่จ้างพนักงานคนใดต่อเมื่อครบกำหนดสัญญา
2. อิสระจากข้อผูกมัดระยะยาว
การใช้บริการ Outsource IT ช่วยให้บริษัทไม่ต้องกังวลเรื่องสัญญา หรือข้อผูกมัดระยะยาวหากมีการเปลี่ยนแปลงบางรูปแบบ เช่น การให้พนักงานออกจากงาน เพราะหากเป็นพนักงานรูปแบบ Outsource บริษัทเพียงทำตามสัญญาที่ทำไว้กับผู้ให้บริการ แต่หากเป็นพนักงานประจำอาจมีจำนวนข้อบังคับที่มากกว่า
3. ง่ายต่อการเข้าถึงเทคโนโลยี
เมื่อบริษัทเผชิญกับปัญหา ผู้ให้บริการ Outsource IT สามารถอำนวยความสะดวกให้แก่บริษัท ด้วยการส่งพนักงาน IT ที่สามารถแก้ปัญหาด้านเทคโนโลยีเรื่องนั้น ๆ ได้ โดยปราศจากความกังวลว่าข้อมูลจะรั่วไหล
4. ลดต้นทุนค่าพนักงาน
บริษัทสามารถจ่ายค่าจ้างเท่าที่บริษัทต้องการ ซึ่งการใช้บริการ Outsource พนักงาน IT จะช่วยลดต้นทุนค่าแรง โดยไม่ต้องมีข้อผูกมัดของพนักงานประจำ และลดการลงทุนในทรัพยากรที่ไม่ได้ใช้ในระยะยาว
5. ควบคุมการตัดสินใจเกี่ยวกับไอทีได้มากขึ้น
การออกไปปฏิบัติงานนอกสถานที่ของพนักงาน IT แบบประจำ อาจทำให้ยากต่อการควบคุมการตัดสินใจ รวมถึงการรั่วไหลของข้อมูลบริษัทด้วย หากแต่เป็นพนักงาน IT แบบ Outsource จะสามารถควบคุมการตัดสินใจเกี่ยวกับ IT และข้อมูลต่าง ๆ ได้ดีมากขึ้น เนื่องจากถูกจ้างมาเพื่อโครงการใดโครงการหนึ่งอย่างชัดเจน
6. ได้รับคุณภาพการบริการที่ดีผ่านผู้เชี่ยวชาญ
บริษัทสามารถปฏิบัติงานได้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ ผ่านการใช้บริการ Outsource IT ที่มีความเชี่ยวชาญ และบริการที่ถูกออกแบบมาอย่างเหมาะสม
7. ให้บริการได้ไม่จำกัดเรื่องสถานที่
บริษัทสามารถเปลี่ยนสถานที่ปฏิบัติงานของแต่ละโครงการได้ เนื่องจากบริการ Outsource IT สามารถจัดหาพนักงาน IT ในพื้นที่ต่าง ๆ ตามที่ธุรกิจมีความต้องการ
8. สร้างโอกาสในการเกิดนวัตกรรม
การปฏิบัติงานของพนักงาน IT แบบประจำ อาจต้องมีงานเอกสาร รวมถึงงานรายละเอียดยิบย่อยอันส่งผลให้พนักงาน IT แบบประจำ ไม่มีช่วงเวลาที่สามารถศึกษาหาความรู้ หรือคิดค้นนวัตกรรม แต่หากเป็นช่วงเวลาของพนักงาน IT แบบ Outsource จะมีโอกาสที่ทำให้เกิดนวัตกรรม หรือสิ่งใหม่ได้มากกว่า
9. ช่วยฟื้นฟูจากสถานการณ์เลวร้ายไม่คาดฝัน
พนักงาน IT ที่มีทักษะ จะสามารถให้ความไว้วางใจกับพนักงานในบริษัท หากเกิดเหตุขัดข้องกับคอมพิวเตอร์ได้ โดยจะช่วยลดความกังวลของผลกระทบ เช่น การสูญเสียผลผลิต การรักษาความปลอดภัยข้อมูล การสูญหายของข้อมูล กล่าวคือ ข้อกังวลจะลดลงหากได้ บริการ Outsource IT ที่กู้คืนระบบได้อย่างรวดเร็ว และทันท่วงที
10. มีเวลาโฟกัสธุรกิจหลัก
การบริหารจัดการเรื่องระบบเทคโนโลยีในองค์กร อาจส่งผลกระทบต่อเวลาในการดำเนินธุรกิจหลัก โดย Outsource IT สามารถช่วยให้ธุรกิจมีเวลาไปโฟกัสวิสัยทัศน์ของธุรกิจหลัก โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความยุ่งยากของงาน IT ที่เกิดขึ้น
11. ลดความเสี่ยงขององค์กร
การใช้บริการ Outsource ของพนักงาน IT เป็นหนึ่งในวิธีการลดความเสี่ยงขององค์กร เพราะบริษัทผู้ให้บริการ Outsource IT นั้นจะมีความเชี่ยวชาญ ความเข้าใจในการรักษาความปลอดภัยข้อมูล รวมถึงประเด็นปัญหาต่าง ๆ ที่บริษัทอาจเผชิญ
12. ปฏิบัติตามแนวทางและรักษาความปลอดภัยข้อมูล
พนักงาน IT ที่ผู้ให้บริการสรรหามา มักมีทักษะ และความรู้ในการดูแลรักษาระบบโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีขององค์กร พร้อมทั้งยังรู้ข้อควรปฏิบัติต่าง ๆ ในอุตสาหกรรม และการรักษาความปลอดภัยข้อมูลอีกด้วย อาทิ HIPAA (Health Insurance Portability And Accountability Act) ซึ่งคือ กฏหมายที่คุ้มครองข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการรักษาพยาบาลของผู้ป่วยในทุกรูปแบบ และ SOX (Sarbanes Oxley act) ซึ่งเป็นกฎหมายที่ตราขึ้นบังคับใช้ เพื่อป้องกันปัญหาด้านบัญชีการเงินที่ผิดพลาด และการฉ้อโกงภายในให้กับผู้ถือหุ้น กับสาธารณชนทั่วไป นอกจากนี้ยังมี PCI DSS (Payment Card Industry Data Security Standard) ซึ่งหมายถึงกลุ่มของมาตรฐานด้านความมั่นคงปลอดภัย ที่ออกแบบมาสำหรับทุกองค์กรที่รับประมวลผล จัดเก็บ และส่งต่อข้อมูลบัตรเครดิต
13. สร้างโอกาสในการแข่งขัน
บริการ Outsource IT สามารถทำให้ธุรกิจสามารถแข่งขัน กับคู่แข่งได้ด้วยการปฏิบัติงานที่รวดเร็ว เพราะการใช้บริการ Outsource IT จะทำให้ธุรกิจข้ามข้อจำกัดภายในของแผนก IT และอาจมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น โปรแกรม ซอฟต์แวร์ หรือ API เข้ามาพัฒนาธุรกิจ ซึ่งอาจเกิดเป็นข้อได้เปรียบเชิงการแข่งขันที่ทำให้ธุรกิจเอาชนะคู่แข่งในตลาด
14. มีเวลาพัฒนาข้อได้เปรียบทางการแข่งขันมากขึ้น
นอกจากการใช้บริการ Outsource IT จะทำให้บริษัทมีเวลาโฟกัสธุรกิจหลัก โดยไม่ต้องกังวลเรื่องงาน IT ที่เกิดขึ้นแล้วนั้น ยังช่วยให้บริษัทมีเวลาพัฒนาข้อได้เปรียบทางการแข่งขันมากขึ้น เพราะการที่ธุรกิจดำเนินการไปเรื่อย ๆ โดยไม่ได้สร้างข้อได้เปรียบทางการแข่งขัน ก็อาจทำให้ธุรกิจครองส่วนแบ่งตลาดลดลงในระยะยาว
สรุป
การเลือกจ้าง Outsource IT หรือพนักงานจากภายนอกองค์กรเข้ามาทำงานให้แทนนั้น จะช่วยทำให้โอกาสประสบความสำเร็จขององค์กร ที่แบกรับค่าใช้จ่ายในการจ้างพนักงานไอทีประจำไม่ไหว มีโอกาสประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น ทั้งยังทำให้การดำเนินธุรกิจมีความคล่องตัวสูงขึ้นมาก เพราะองค์กรสามารถเพิ่มจำนวนพนักงานได้ตามความต้องการของงานที่เพิ่มขึ้น และยังสามารถทำงานด้านไอทีได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยที่งานหลักขององค์กรก็ไม่ได้ถูกลดประสิทธิภาพลง
สำหรับใครที่กำลังมองหาสิ่งที่ว่ามานี้อยู่ล่ะก็ Hocco คือ บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ให้บริการด้านซอฟต์แวร์และดิจิทัลโซลูชั่น ซึ่งพร้อมไปด้วยผู้เชี่ยวชาญทางด้านไอทีเฉพาะด้าน ที่จะเข้ามาช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการทำงานสำหรับทีมของคุณ ให้ได้ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และส่งมอบดิจิทัลโซลูชั่นได้เร็วขึ้นด้วยประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งหากสนใจ สามารถติดต่อได้ที่เว็บไซต์ของทางเราได้เลย
อ้างอิง
https://www.geniussoft.co.th/บทความ/it-outsource-service-คืออะไร/
https://www.aware.co.th/รู้ไว้ก่อนเป็น-outsource/
https://ditc.co.th/knowledge/it-outsource/
https://www.professional-one.com/it-outsource-กับ-it-ประจำ-แบบไหนคุ้มกว/
https://www.poit.co.th/post/14-ข้อดีการใช้-it-outsource
0 Comment