ในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในปัจจุบันและเทคโนโลยีมีความก้าวหน้าในอัตราที่ไม่เคยมีมาก่อน หนึ่งในเทคโนโลยีที่น่าตื่นเต้นและมีแนวโน้มที่จะก้าวหน้ามากที่สุดที่เกิดขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาคือปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence หรือเรียกสั้น ๆ ว่า AI ซึ่ง AI มีศักยภาพในการปฏิวัติวิธีการทำงานของธุรกิจ โดยไม่คำนึงว่าพวกเขาจะอยู่ในอุตสาหกรรมใด ในบทความนี้ เราจะมาดูกันว่า Business AI คืออะไร ใช้งานอย่างไรในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และนำไปปรับใช้ในธุรกิจต่าง ๆ ได้อย่างไร
Business AI คืออะไร?
Business AI คือการใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินธุรกิจ ลดต้นทุน และเพิ่มรายได้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้อัลกอริธึมขั้นสูง การเรียนรู้ของเครื่อง และเทคนิคการเรียนรู้เชิงลึกเพื่อวิเคราะห์ข้อมูล ระบุรูปแบบ และคาดการณ์ โดย Business AI สามารถช่วยให้องค์กรต่าง ๆ ตัดสินใจได้ดีขึ้น ปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า และทำให้งานที่ทำซ้ำ ๆ เป็นไปโดยอัตโนมัติ
ธุรกิจ AI ในอุตสาหกรรมต่าง ๆ
อุตสาหกรรมการแพทย์เป็นพื้นที่หนึ่งที่ AI สร้างผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญอยู่แล้ว โซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI ช่วยให้บุคลากรทางการแพทย์สามารถวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยได้แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น อัลกอริธึม AI สามารถวิเคราะห์ภาพทางการแพทย์ เช่น รังสีเอกซ์และ MRI เพื่อระบุปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้น สิ่งนี้สามารถช่วยแพทย์ในการตัดสินใจอย่างรอบรู้มากขึ้นเกี่ยวกับตัวเลือกการรักษาและอาจช่วยชีวิตได้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องราว AI ทางการแพทย์ด้านอื่น ๆ ที่ HOCCO เคยเขียนไว้ที่บทความ “รู้จัก Artificial Intelligence (AI) ในทางการแพทย์”
อีกทั้ง AI ยังถูกใช้เพื่อพัฒนายาเฉพาะบุคคลอีกด้วย ด้วยการวิเคราะห์องค์ประกอบทางพันธุกรรมและประวัติทางการแพทย์ของผู้ป่วย อัลกอริทึม AI สามารถระบุตัวเลือกการรักษาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดสำหรับแต่ละบุคคลได้ สิ่งนี้สามารถปรับปรุงผลลัพธ์ของผู้ป่วยและลดความเสี่ยงของอาการไม่พึงประสงค์จากการใช้ยาได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น นักวิจัยจากคณะเภสัชศาสตร์จาก University of North Carolina at Chapel Hill Eshelman ได้พัฒนาโปรแกรม AI ที่สามารถสอนให้ออกแบบโมเลกุลยาชนิดใหม่ได้ ความก้าวหน้าดังกล่าวจะเป็นการช่วยให้การคิดค้นยาชนิดใหม่ ๆ ได้รวดเร็วยิ่งขึ้น เป็นต้น (อ้างอิงจาก: OURGREENFISH)
AI ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะในอุตสาหกรรมการแพทย์ มีการใช้งานในอุตสาหกรรมอื่น ๆ มากมาย รวมถึงการเงิน การค้าปลีก การผลิต และอื่น ๆ ตัวอย่างเช่น ในอุตสาหกรรมการเงิน อัลกอริทึม AI สามารถวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงินเพื่อระบุรูปแบบและคาดการณ์เกี่ยวกับราคาหุ้น อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน และอื่น ๆ สิ่งนี้สามารถช่วยให้นักลงทุนตัดสินใจลงทุนได้ดีขึ้นและเพิ่มผลตอบแทน
ในอุตสาหกรรมการค้าปลีก แชตบอตที่ขับเคลื่อนด้วย AI สามารถให้การสนับสนุนลูกค้าตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ตอบคำถามที่พบบ่อย และแม้กระทั่งให้คำแนะนำผลิตภัณฑ์ตามประวัติการเข้าชมของลูกค้า สิ่งนี้สามารถปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าและเพิ่มยอดขายได้ สามารถอ่านบทความเรื่องแชตบอตเพิ่มเติมได้ที่บทความ “ตอบเองได้ไม่ต้องใช้คนด้วย Chatbot” และในแง่ของการค้าปลีกก็ยังมีเรื่องราวล้ำ ๆ ที่พัฒนาการค้าด้านนี้อยู่มากมาย สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ “อุตสาหกรรมการค้าปลีกแห่งโลกอนาคต”
นอกจากนี้ AI ยังสามารถนำมาใช้ในการผลิตเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตและลดของเสีย ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลจากเซ็นเซอร์และแหล่งข้อมูลอื่น ๆ อัลกอริทึม AI สามารถระบุคอขวดที่อาจเกิดขึ้นและความไร้ประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต สิ่งนี้สามารถช่วยให้ธุรกิจปรับปรุงการดำเนินงาน ลดต้นทุน และเพิ่มผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง
โดยสรุปแล้ว Business AI นั้นมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมต่าง ๆ ด้วยการใช้ประโยชน์จากพลังของอัลกอริทึม Business AI สามารถปรับปรุงการตัดสินใจ ปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้า ทำงานซ้ำ ๆ โดยอัตโนมัติ และเพิ่มรายได้ ซึ่งอุตสาหกรรมการแพทย์เป็นพื้นที่หนึ่งที่ AI กำลังก้าวหน้าไปอย่างมาก แต่ก็มีอุตสาหกรรมอื่น ๆ อีกมากมายที่สามารถใช้ AI เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คล้ายคลึงกัน ในขณะที่เทคโนโลยีก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง เป็นเรื่องน่าสนใจที่จะเห็นว่า AI พัฒนาและเปลี่ยนแปลงโลกธุรกิจอย่างต่อเนื่องได้อย่างไรต่อไปในอนาคต
0 Comment